ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชา
จันทกุมาร บำเพ็ญขันติบารมี (๒)
๓๔๐
สร้างบารมีในยุคสมัยที่กับกำลังไขลงนี้ จําเป็นต้องอาศัยขันติเป็น
พื้นฐาน ใจต้องมั่นคง หนักแน่น ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจกิเลสฝ่ายต่ำ
มนุษย์ส่วนใหญ่มักปล่อยใจไปตามกระแสกิเลสจนเคยชิน ทำให้
ชีวิตหลังความตายต้องพลัดตกไปเสวยทุกข์ทรมานในอบายกันมาก
แต่ถ้าหากมีขันติธรรม ยกใจให้สูงขึ้นกว่ากิเลสเหล่านั้น ดำรงตน
ประดุจภูเขาที่ไม่หวั่นไหว ไม่โอนเอนตามแรงลมที่ถาโถมกระหน่ำ
เข้าใส่ อดเปรี้ยวไว้กินหวาน ชีวิตหลังความตายย่อมจะมีสุคติ
โลกสวรรค์เป็นที่ไป ความอดทนอาจจะกล้ำกลืน แต่มีความ
หวานชื่นเป็นผล นอกจากนี้พระพุทธองค์ยังตรัสยกย่องขันติธรรม
ว่า ยกเว้นปัญญาแล้ว เราตถาคตสรรเสริญว่าขันติเป็นคุณธรรม
อย่างยิ่ง
สำหรับครั้งนี้ เรามาศึกษาเรื่องขันติบารมีของพระสัมมา
สัมพุทธเจ้ากันต่อ ว่าสมัยที่ยังสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์อยู่นั้น
พระองค์ทรงบำเพ็ญขันติบารมีอย่างยิ่งยวดไว้อย่างไรบ้าง ใน
ครั้งที่แล้ว หลวงพ่อได้เล่าเรื่องขันติธรรมของพระบรมศาสดาที่
มีต่อพระเทวทัต แม้จะถูกพระเทวทัตส่งนายขมังธนูไปลอบปลง
พระชนม์ พระองค์ก็ไม่ทรงโกรธแค้น แต่กลับเปลี่ยนเรื่องร้ายให้
กลายเป็นดี ทรงเทศน์โปรดนายขมังธนูทั้ง ๓๑ คน ให้ได้บรรลุ
โสดาปัตติผลกันทุกคน