ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ชัยชนะครั้งที่ ๑ (ตอนที่ ๑ ชนะพญามาร)
ขณะเดียวกันนั้นเอง เทวดาในหมิ่นจักรวาล กําลังพากัน
กล่าวสดุดีพระโพธิสัตว์ โดยมีท้าวสักกเทวราชยืนเป่าสังข์วิชยุตร
ซึ่งมีขนาดประมาณ ๑๒๐ ศอก พญากาฬนาคราชยืนพรรณนา
พระคุณของพระโพธิสัตว์ ท้าวมหาพรหมยืนกั้นเศวตฉัตร เมื่อ
เหล่ามารจู่โจมเข้ามาใกล้ต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทวยเทพทั้งหมดก็
เกิดอาการขนพองสยองเกล้า ตกอกตกใจกันไปหมด รีบเผ่นหนี
ไปสุดขอบจักรวาล พญากาฬนาคราชดำดินไปมัญเชริกนาคพิภพ
ซึ่งมีขนาด ๕๐๐ โยชน์ นอนเอามือทั้งสองปิดหน้า ท้าวสักกเทว
ราชลากสังข์วิชยุตรพร้อมด้วยเหล่าทวยเทพหนีไปอยู่ขอบจักรวาล
ท้าวมหาพรหมจับยอดเศวตฉัตรเสด็จหนีไปยังพรหมโลกทันที นี่
พญามารมีฤทธิ์มีอานุภาพมากถึงเพียงนี้ ซึ่งอันที่จริงเทวดา พรหม
หรืออรูปพรหมต่างมีอานุภาพ แต่ก็สู้พญามารไม่ได้ ทั้งก็ยังตก
เป็นบ่าวเป็นทาสของเขาอยู่
พระโพธิสัตว์ถูกทอดทิ้งอยู่เพียงลำพังพระองค์เดียว ไม่
มีใครเป็นที่พึ่งได้ จึงทรงรำพึงว่า “มารเหล่านี้ทําความพากเพียร
ใหญ่โต เพราะมุ่งหมายทำลายเราผู้เดียว ในที่นี้เราไม่มีพวกพ้อง
บริวาร มีแต่ทศบารมีเท่านั้น ที่เป็นเสมือนบริวารชนที่เรา
ชุบเลี้ยงมาตลอดกาลนาน เพราะฉะนั้นเราควรทำบารมี ๓๐ ทัศ
ให้เป็นยอดขุนพล เอาศาสตรา คือ บารมีนั่นแหละประหาร
กำจัดหมู่พลมารนี้ให้ได้” ทรงนึกถึงบารมีทั้ง ๑๐ ทัศ รวมไปถึง