ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในทางพุทธศาสนาสอนไว้ว่า ความรวย หรือทรัพย์ที่ตนเองมีนั้น มีไว้เพื่อประโยชน์แก่
บุคคลต่าง ๆ คือ
1) เลี้ยงตนให้เป็นสุข
2) เลี้ยงบิดามารดาให้เป็นสุข
3) เลี้ยงบุตรภรรยา คนใช้ และบริวารให้เป็นสุข
4) เลี้ยงมิตรและอำมาตย์ให้เป็นสุข
5) บำเพ็ญทักษิณาทานในสมณพราหมณ์ 1
นั่นก็หมายความว่า
เรายิ่งมีทรัพย์มากเท่าไหร่ เรายิ่งสามารถใช้ทรัพย์ทำประโยชน์ทั้ง
5 ประการนี้ ได้มากเท่านั้น ผลที่ได้รับจากใช้ทรัพย์เช่นนี้ ย่อมทำให้เราได้ผลบุญมากไปด้วย
บุญคืออะไร ?
บุญ คือ ธรรมชาติบริสุทธิ์ที่เกิดขึ้นในใจทุกครั้งเมื่อได้ทำความดี ละเว้นความชั่ว กลั่น
ใจให้ผ่องใส มีคุณสมบัติพิเศษ คือ สามารถสั่งสมได้ กลั่นกาย วาจา ใจให้บริสุทธิ์ได้ นำติดตัว
ข้ามภพข้ามชาติไปได้ และมีอานุภาพกำจัดทุกข์และบันดาลความสุขให้แก่ชีวิตทั้งในปัจจุบัน
และอนาคตได้อย่างอัศจรรย์
บุญมีความสำคัญอย่างไร ?
ในการสร้างตัวสร้างฐานะให้ร่ำรวยนั้นมักมีผู้เข้าใจผิดว่า ความรวยนั้นเกิดจากการอาศัย
หนึ่งสมองสองมือเป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วหาใช่เพียงแค่นั้นไม่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนให้รู้
ว่าเบื้องหลังความสำเร็จทั้งหลายในโลกนี้ไม่ใช่มีแค่หนึ่งสมองสองมือ แต่ต้องมีบุญที่ตนเคยทำไว้
ด้วย เพราะถึงแม้จะทุ่มเทพยายามสร้างความรวยด้วยหนึ่งสมองสองมือแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีบุญ
มาก่อนย่อมยากจะทำได้สำเร็จ หรือบางครั้งทำได้สำเร็จ แต่ตนก็กลับไม่ได้เป็นผู้ใช้ทรัพย์ที่เกิด
จากความร่ำรวยนั้น ดังพุทธพจน์ที่พระองค์ตรัสสอนไว้ใน สิริชาดก ว่า
“ผู้ไม่มีบุญจะเป็นผู้มีศิลปะหรือไม่มีศิลปะก็ตาม ย่อมขวนขวายรวบรวมทรัพย์ ใดไว้
เป็นอันมาก ผู้มีบุญย่อมใช้สอยทรัพย์เหล่านั้นโภคะเป็นอันมากย่อมล่วงเลย สัตว์เหล่าอื่นไปเสีย
เกิดขึ้นในที่ทั้งปวงแก่ผู้มีบุญอันได้กระทำไว้แล้วใช่แต่เท่านั้นรัตนะทั้งหลายยังเกิดขึ้นแม้ในที่อัน
มิใช่บ่อเกิด” 2
โภคสูตร, อังคุตตรนิกาย ปัญจก-ฉักกนิบาต เล่ม 36 หน้า 480
* สิริชาดก, ขุททกนิกาย ชาดก เล่ม 58 หน้า 273
16 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ