การพัฒนาตนเองในวัฒนธรรมชาวพุทธ GB 304 สูตรสำเร็จการพัฒนาองค์กรและเศรษฐกิจ หน้า 180
หน้าที่ 180 / 263

สรุปเนื้อหา

หมวดที่ 2 นำเสนอการเพิ่มพูนความบริสุทธิ์เพื่อกำจัดกิเลสตระกูลโทสะ ผ่านการรักษาศีลและการช่วยเหลือในกิจที่ชอบ หมวดที่ 3 ว่าด้วยการเพิ่มพูนปัญญาเพื่อกำจัดกิเลสตระกูลโมหะ ด้วยการฝึกฝนตนเอง เช่น การทำภาวนาและฟังธรรม วัฒนธรรมชาวพุทธประกอบด้วย 3 หมวดหลัก ได้แก่ ทาน ศีล และภาวนา ซึ่งช่วยพัฒนาใจให้พ้นจากความทุกข์ และยังมีแขนงย่อยอีก 4 แขนงเพื่อถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดี ได้แก่ คติธรรม, เนติธรรม, วัตถุธรรม, และสหธรรม ผู้ที่ปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอจะได้รับนิสัยที่ดีและผลบุญติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ.

หัวข้อประเด็น

-การเพิ่มพูนความบริสุทธิ์
-การเพิ่มพูนปัญญา
-แขนงของวัฒนธรรมพุทธ
-การถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หมวดที่ 2 ว่าด้วยการเพิ่มพูนความบริสุทธิ์ เพื่อกำจัดกิเลสตระกูลโทสะโดยมุ่งป้องกัน ตนไม่ให้ทำความชั่ว เช่น การรักษาศีล การขวนขวายช่วยเหลือในกิจที่ชอบ การมีความเคารพ อ่อนน้อมต่อผู้มีคุณธรรม เป็นต้น เรียกสั้น ๆ ว่า “ศีล” หมวดที่ 3 ว่าด้วยการเพิ่มพูนปัญญา เพื่อกำจัดกิเลสตระกูลโมหะ โดยมุ่งฝึกฝนอบรม ตนเองให้ฉลาด มีสติปัญญาดี เช่น การทำภาวนา การฟังธรรม การสนทนาธรรม เป็นต้น และ เรียกสั้นๆ ว่า “ภาวนา” วัฒนธรรมทั้งสามหมวดหมู่นี้ แต่ละหมวดยังแบ่งย่อยออกเป็น 4 แขนง ได้แก่ 1) คติธรรม หมายถึง ธรรมะประจำใจอันเป็นหลักดำเนินชีวิตของแต่ละคนให้ถูกต้อง เหมาะสม เพื่อใช้ในการสอนตัวเอง เตือนตัวเอง ไม่ให้แชเชือนออกไปนอกทาง มีแต่เร่งเร้าให้ ทำความดียิ่งๆ ขึ้นไป 2) เนติธรรม หมายถึง กฎหมาย ระเบียบวินัย ขนบธรรมเนียม จารีตประเพณี อันเป็น เครื่องประกันสวัสดิภาพในการอยู่ร่วมกันเป็นสังคมและขัดเกลาจิตใจของหมู่คณะให้ดีขึ้น 3) วัตถุธรรม หมายถึง อาคารสถานที่ ปัจจัย 4 วัตถุสิ่งของเครื่องใช้ งานศิลปกรรม การแต่งกาย เป็นต้น ต้องมีความสะอาด เป็นระเบียบเรียบร้อย สร้างบรรยากาศที่ดีให้แก่ ผู้อยู่อาศัยและผู้พบเห็น และไม่เป็นข้าศึกต่อการทำความดี 4) สหธรรม หมายถึง มารยาทในการติดต่อกับบุคคลอื่น และการเข้าสู่สาธารณสังคม ทั่วไป เพื่อให้สังคมยอมรับ ไม่จับผิดคิดในแง่ลบ วัฒนธรรมชาวพุทธทั้งสามหมวดที่นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเรียกว่า บุญกิริยาวัตถุ 3 คือ ทาน ศีล ภาวนา เป็นเครื่องมือพัฒนาใจให้พ้นจากความทุกข์เศร้าหมองทั้งหลาย และ เพิ่มพูนทั้งปัญญา ความบริสุทธิ์ และความกรุณาไปด้วยในตัว โดยผ่านการแตกแขนง วัฒนธรรมออกมาในรูปแบบของคติธรรม เนติธรรม วัตถุธรรม และสหธรรม ดังนั้น ผู้ที่ปฏิบัติ อย่างสม่ำเสมอนั้น นอกจากได้รับ “นิสัยที่ดี” แล้ว ย่อมได้ “ผลบุญ” เป็นเสบียงติดตัวไปข้าม ภพข้ามชาติอีกด้วย 3. มีวิธีถ่ายทอดวัฒนธรรมที่ดี การถ่ายทอดวัฒนธรรม โดยพื้นฐานมีอยู่ 2 ประการ คือ “แนะดี” กับ “นำดี” “แนะดี” คือ ต้องถ่ายทอดเนื้อหาของการทำทาน รักษาศีล และเจริญภาวนาทั้งภาค ทฤษฎีและปฏิบัติให้ครบถ้วน 4 ประเด็น ได้แก่ อะไร (What) ทำไม (Why) ทำอย่างไร (How) บทที่ 4 จั ก ร ธ ร ร ม ห ลั ก การพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 169
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More