ข้อความต้นฉบับในหน้า
2. เสื่อมมิตร คือ เมื่อใครๆ ก็เตือนไม่ได้ ตนเองย่อมไม่ได้รับความรู้ที่ทันสมัย
ทันเหตุการณ์ ทำให้ขาดปัญญา และเมื่อขาดปัญญาแล้ว ก็เป็นเหตุให้ขาดความปลอดภัยใน
ชีวิตและทรัพย์สินเงินทองตามมา
3. เสื่อมหมู่คณะ คือ เมื่อใคร ๆ ก็เตือนไม่ได้แล้ว เขาย่อมไม่ให้การยอมรับ เป็นเหตุให้
ขาดเกียรติยศชื่อเสียง คือขาดการยกย่องนับถือให้ความเกรงใจจากผู้อื่น เมื่อเกียรติยศชื่อเสียงมี
ปัญหาแล้ว ก็ย่อมส่งผลกระทบถึงการขาดคนสนับสนุนธุรกิจการงานของตนไปด้วย เป็นเหตุ
ให้เกิดความกลุ้มกลัดที่ต้องหันไปพึ่งอิทธิพลของคนพาล แล้วพาตัวไปจมอยู่กับอบายมุขต่างๆ
ทำให้ใช้จ่ายทรัพย์สมบัติละลายไปกับอบายมุข ในที่สุดย่อมเป็นเหตุให้ขาดทรัพย์
เมื่อทรัพย์ขาดมือแล้ว ย่อมไม่อาจดูแลกิจการให้ปกติ อีกทั้งไม่สามารถจ่ายเงินเดือน
ให้บริวารได้ตามสัญญา ลูกน้องแม้จะรักเจ้านายแค่ไหน แต่ก็คงอยู่กับเจ้านายที่ไม่จ่ายเงินเดือน
ไม่ไหว ย่อมต้องขอลาออกจากงานไป จึงเป็นเหตุให้ขาดลูกน้องบริวาร
ดังนั้น เมื่อเสื่อมตน เสื่อมมิตร เสื่อมหมู่คณะแล้ว ก็เป็นอันว่าความพยายามในการ
สร้างตัว สร้างฐานะ และสร้างหมู่คณะที่พากเพียรทำมาก็ถึงกาลอวสานเพราะเหตุที่มีทิฏฐิมานะ
มีอาการอวดดื้อถือดี และดูถูกดูหมิ่นคนอื่นแท้ๆ
การป้องกันไม่ให้เป็นอวดดื้อถือดี หรือเป็นคนมีทิฏฐิมานะชนิดที่ใครๆ เตือนไม่ได้นั้น
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักปฏิบัติไว้ 3 ประการ คือ
1. หมั่นเทียบเคียงการสร้างความดีของตนเองกับมาตรฐานของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอยู่
เป็นประจํา
2. หมั่นคบกัลยาณมิตรและเข้าไปปวารณาตัวให้ท่านตักเตือนเราได้เสมอ
3. หมั่นสร้างอริยทรัพย์ให้เกิดขึ้นในตนเพื่อสร้างหลักประกันป้องกันความเสื่อมในโลกนี้
และโลกหน้า
ผู้ที่ป้องกันความเสื่อมเหล่านี้ไว้ได้ ย่อมรักษารากฐานความเจริญก้าวหน้าที่ตนเอง
และหมู่คณะสร้างมาด้วยความเหนื่อยยากลำบากไว้ได้สำเร็จ
1.5 อานิสงส์ของการสร้างตัวสร้างฐานะตามพุทธวิธี
ผลของการมีความเข้าใจถูกในการสร้างตัวสร้างฐานะตามพุทธวิธี ทั้ง 4 ประการ คือ
26 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ