แนวทางการปกครองด้วยอปริหานิยธรรม GB 304 สูตรสำเร็จการพัฒนาองค์กรและเศรษฐกิจ หน้า 132
หน้าที่ 132 / 263

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความสำคัญของการปกครองด้วยอปริหานิยธรรม ซึ่งช่วยสร้างความสามัคคีในครอบครัวและหน่วยงานต่าง ๆ โดยวิธีการสำคัญคือการประชุมปรึกษาหารืออย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ทุกคนมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและสร้างความเห็นร่วม นอกจากนี้ยัง تقديم แนวทางในการหลีกเลี่ยงอคติและการประพฤติไม่เป็นธรรมที่เกิดจากความกลัว โดยผลที่ตามมาจากการนำหลักธรรมเหล่านี้ไปปฏิบัติจะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนอย่างยั่งยืน.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของการปกครอง
-การประชุมและการปรึกษาหารือ
-หลักการอปริหานิยธรรม
-ผลกระทบจากการปกครองที่ลำเอียง
-สร้างสังคมที่สามัคคี

ข้อความต้นฉบับในหน้า

เป็นทวีคูณ เป็นที่มาของการทำลายหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง กฎหมายของบ้านเมืองขาดความ ศักดิ์สิทธิ์ สังคมระส่ำระสายเพราะทำให้จำนวนผู้หลงผิดเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างต่อเนื่องตามไปด้วย เพื่อให้ตนเองปลอดภัยไว้ก่อน ลำเอียงเพราะกลัว (ภยาคติ) คือ ความลำเอียงอันเกิดจากความกลัวภัยมาถึงตัว จึง เป็นเหตุให้บุคคลประพฤติไม่เป็นธรรม ไม่ถูกต้องเหมาะสม การกระทำด้วยความลำเอียงเพราะกลัว ย่อมมีผลให้ผู้ควรได้รับประโยชน์กลับไม่ได้รับ ผู้ที่ไม่ ควรรับโทษกลับได้รับโทษ เป็นที่มาของการส่งเสริมให้เกิดภัยมืดต่าง ๆ จากเหล่ามิจฉาชีพ เช่น การเรียกเก็บค่าคุ้มครอง การเก็บส่วย การสร้างพยานเท็จ เป็นต้น ครอบครัวใด หน่วยงานใด ท้องถิ่นใด ที่มีผู้นำปกครองด้วยหลักธรรม คือ ความไม่ อคติ 4 เช่นนี้ ย่อมส่งเสริมให้เกิดกำลังใจในการทำความดียิ่ง ๆ ขึ้นไป 1.1.2) วิธีการปกครองด้วยอปริหานิยธรรม คำว่า “อปริหานิยธรรม” แปลว่า ข้อปฏิบัติที่ไม่นำไปสู่ความเสื่อม อปริหานิยธรรมเป็นข้อปฏิบัติที่ผู้นำของครอบครัวใด หน่วยงานใด ท้องถิ่นใด นำ ไปปฏิบัติแล้ว ย่อมเกิดการทำงานเป็นทีมอย่างมีความสุขและความสามัคคี สามารถป้องกัน อคติ 4 ที่อาจเกิดมีขึ้นในตัวได้ และยิ่งปฏิบัติมากเท่าไหร่ ก็มีแต่ทำให้เกิดความเจริญเพียง อย่างเดียว ไม่มีความเสื่อมเกิดขึ้นเลย อปริหานิยธรรม มี 7 ข้อ ดังนี้ (1) หมั่นประชุมกันเนืองนิตย์ ข้อนี้หมายถึงประชุมปรึกษาหารือกันเป็นประจำเป็นการฟังความคิดเห็นและข้อเสนอ ของกันและกันก่อนที่จะดำเนินการใด ๆ เป็นการเปิดโอกาสให้ผู้อื่นมีส่วนรวม ได้แสดงความคิด เห็นด้วย ซึ่งเป็นแนวทางให้เกิดความสามัคคีและรักษาความสามัคคีของหมู่คณะเข้าไว้ได้ (2) เมื่อประชุมก็พร้อมเพรียงกันประชุม เมื่อเลิกประชุมก็พร้อมเพรียงกันเลิก และ พร้อมเพรียงกันทำกิจที่ควรทำ ข้อนี้หมายถึงในการประชุมนั้นจะต้องอยู่ในที่ประชุมจนกว่าจะปิดประชุมจะได้ พร้อมเพรียงกันเลิกประชุมได้ หากมีกิจการอันใด มีข้อถกเถียงโต้แย้งอันใด หรือมีมติจะให้ทำ 1 พระธรรมกิตติวงศ์ (ทองดี สุรเตโช ป.ธ.9, ราชบัณฑิต) พระพุทธศาสนากับการปกครองท้องถิ่น, หนังสือ รวมใจทุกศาสนาพัฒนาท้องถิ่นไทย ถวายองค์ราชา ครองราชย์ 60 ปี บทที่ 4 จั ก ร ธ ร ร ม ห ลั ก การพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 121
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More