ข้อความต้นฉบับในหน้า
เพราะฉะนั้น การจะเริ่มต้นแก้ไขอะไรก็ตาม ต้องเริ่มจากมองเห็นข้อบกพร่องของ
ตนเองก่อน
ทำอย่างไรจึงจะเห็นข้อบกพร่องของตนเอง ก็ทำได้โดยหลับตาทำสมาธิให้ใจเป็นกลาง
พอใจเป็นกลาง ก็จะเห็นพฤติกรรมของตัวเอง ถูกก็มองเห็น ผิดก็มองเห็น แล้วก็ลงมือแก้ไขให้
ตรงจุด ที่ถูกก็ทำให้ถูกยิ่งขึ้นไป ที่ผิดก็แก้ไขให้ถูก
ด้วยวิธีที่ต่างคนก็เริ่มต้นแก้ไขที่ตัวเองนี้ โดยไม่ปล่อยให้ใครมาแทรกแซง เดี๋ยวก็แก้ไข
ได้ ยกเว้นว่า คนๆ นั้นเป็นคนบ้าสติไม่ดี หรือคนตายไปแล้วเท่านั้นที่แก้ไขไม่ได้
ดังนั้น การเผยแผ่ธรรมะจึงมีจุดประสงค์เพื่อกระจายวิธีกำจัดทุกข์ร้อนให้ทั่วถึงทุกคน
อย่างมากที่สุด ยิ่งกระจายออกไปกว้างไกลเท่าไหร่ ยิ่งทำให้ท้องถิ่นนั้น ประเทศนั้นมีความสงบ
สุขมากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นอย่างนี้ ทุกคนก็เพียงแต่ตั้งใจแก้ไขตัวเอง โลกที่เคยร้อนก็จะเย็นลงตาม
ลำดับๆ โดยมีการเผยแผ่ธรรมะเป็นจุดเริ่มต้นนั่นเอง
1.3.3) ทำอย่างไรธรรมะจึงจะเผยแผ่ไปในท้องถิ่น
การเผยแผ่ธรรมะไปในท้องถิ่นจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อประชาชนมีศรัทธา พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าทรงชี้ให้เห็นว่าศรัทธานั้นเป็นผลที่เกิดขึ้นหลังการฟังธรรม ประเด็นสำคัญก็คือ
ทำอย่างไรประชาชนถึงอยากจะฟังธรรม
ธรรมชาติของมนุษย์นั้น ย่อมหนีร้อนมาพึ่งเย็น สถานที่แห่งใดก็ตามที่เขาเชื่อว่า
สามารถให้ความเย็นใจแก่เขาได้ เขาย่อมไปที่แห่งนั้น ปู่ย่าตาทวดในอดีตจึงนิยมสร้างวัดวา
อารามไว้ใกล้หมู่บ้าน และเดินทางไปนิมนต์พระภิกษุผู้ประพฤติดีปฏิบัติชอบมาอยู่ประจำ
เพื่อเป็นครูสอนศีลธรรมประจำหมู่บ้าน ซึ่งก็เป็นเหตุให้เกิดวัดวาอารามต่างๆ ทั่วประเทศใน
สมัยนั้น และมีหลักฐานตราบมาถึงทุกวันนี้
พระอาจารย์ในสมัยก่อน ท่านมีคาถาเรียกคนเข้าวัดด้วยการทำวัดให้เป็นสถานที่
เย็นกายเย็นใจ ใครก็ตามเพียงแค่เดินเฉียดปากประตูวัดเท่านั้น ก็สัมผัสได้ถึงความสงบกาย
สงบใจ อยากจะเข้าไปฟังธรรมในวัด คาถาเรียกคนเข้าวัดของท่านนั้น มีอยู่ 3 ประการ
1) ขยันกวาดวัด หมายถึง การหมั่นดูแลวัดให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เพราะถ้าวัด
ไม่สะอาดกว่าบ้านที่เขาอยู่ ประชาชนที่ไปวัดย่อมเกิดความคิดในแง่ดีได้ยาก เป็นผลให้เกิด
ความคิดจับผิดได้ เพราะมีความรู้สึกว่ามาวัดแล้ว มองไปทางไหนก็มีแต่ความไม่สบายตา
ไม่สบายใจ เห็นแต่ขยะเกลื่อนวัดไปหมด แต่ถ้าวัดสะอาดกว่าบ้านที่เขาอยู่ เพียงแค่เห็น
บทที่ 4 จั ก ร ธ ร ร ม ห ลั ก การพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 131