ข้อความต้นฉบับในหน้า
เสนาสนะถวายในวันที่ 3” ไม่ได้ทรงอาราธนาพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้ พระปัจเจกพุทธเจ้าคิดว่า
“จะไปขอความอนุเคราะห์จากที่อื่น” ดังนี้แล้วหลีกไป
ขณะเดินทางกลับได้พบภรรยาของหัวหน้าช่างหูก นางถามทราบความแล้วมีจิตเลื่อมใส
นิมนต์ให้รับอาหารที่บ้านของตนในวันรุ่งขึ้น
“พวกเรามีมากด้วยกัน น้องหญิง” พระปัจเจกพุทธเจ้าบอก
“มีประมาณเท่าไร ท่านผู้เจริญ” นางถาม
“มีประมาณพันรูป”
“ท่านผู้เจริญ พวกข้าพเจ้ามีประมาณพันคนเหมือนกัน คนหนึ่งจักถวายภิกษาแก่
พระคุณเจ้ารูปหนึ่ง ขอท่านจงรับภิกษาที่บ้านของข้าพเจ้าเถิด ข้าพเจ้าผู้เดียวจักทำที่อยู่ถวาย
ท่านทั้งหลาย”
พระปัจเจกพุทธเจ้ารับอาราธนา
นางเสร็จธุระแล้ว กลับเข้าไปในบ้าน เที่ยวป่าวประกาศให้เพื่อนบ้านทราบว่าได้
นิมนต์พระปัจเจกพุทธเจ้าพันรูปไว้ “ขอท่านทั้งหลายจงจัดแจงที่นั่ง จัดอาหารมีข้าวต้มข้าวสวย
เป็นต้น”
นางได้สร้างปรำใหญ่กลางบ้าน ให้ปูอาสนะไว้เรียบร้อย เลี้ยงพระปัจเจกพุทธเจ้าด้วย
โภชนะอันประณีต เมื่อเสร็จภัตตกิจแล้ว นางได้พาหญิงบริวารพันคนนมัสการพระปัจเจก
พุทธเจ้าแล้วขอให้ท่านรับปฏิญญาในการอยู่จำพรรษาที่นั่น เมื่อท่านรับแล้วนางก็ป่าวประกาศ
ขอแรงเพื่อนบ้านให้ช่วยกันสร้างเสนาสนะถวาย
ในวันออกพรรษา นางได้ชักชวนคนทั้งหลายให้ถวายจีวรแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าที่อยู่
ในบรรณศาลาของตน ๆ พระปัจเจกพุทธเจ้าอนุโมทนาแล้วลาจากไป
นางและบริวารทำบุญอย่างนี้ ไปเกิดในภาพดาวดึงส์มีชื่อว่า “คณะเทพบุตร” มาใน
สมัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่ากัสปะ เทพบุตรเทพธิดาเหล่านั้นเกิดในกรุงพาราณสีอีก
หัวหน้าช่างหูกเป็นบุตรของกุฎมพี่ใหญ่ซึ่งมีฐานะมั่งคั่งกว่าชาติก่อนเพราะผลแห่งบุญที่ได้ทำกับ
พระปัจเจกพุทธเจ้า ภรรยาของเขาได้มาเกิดเป็นธิดาของกุฎมพี่ใหญ่เหมือนกัน เมื่อเจริญวัย
แล้วได้แต่งงานกัน ส่วนบริวารก็มาเกิดในสกุลกุฎมพีบริวาร และได้แต่งงานกันเหมือนกัน
วันหนึ่งมีการป่าวร้องให้คนไปฟังธรรมในวัด พวกกุฎมพี่เหล่านั้นก็ชวนกันไป เมื่อไป
บ ท ที่ 6 อานิสงส์ ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง ตั ว ส ร้ า ง ฐานะ ตามพุทธวิธี DOU 247