ข้อความต้นฉบับในหน้า
(1) เข้าถึงด้วยการทรมานตน โดยหวังว่า เมื่อทรมานตนอย่างสุดชีวิตแล้ว “The
Unknown Factor” ก็จะออกมาเองเหมือนแม่ครัวคั้นกะทิออกมาจากเนื้อมะพร้าว
(2) เข้าถึงด้วยการหมกมุ่นในกาม โดยหวังว่า ยิ่งหมกมุ่นพัวพันในกามมากเท่าไร
ก็จะยิ่งล่อให้ “The Unknown Factor” ออกมาให้เห็นหรือเข้าถึงเร็วเท่านั้น
3.2.2) กลุ่มสายกลาง กลุ่มนี้เชื่อว่า “ The Unknown Factor ” อยู่ในตัวมนุษย์
จะเข้าถึงได้ด้วยการ “ ทำความดี ไม่ใช่ด้วยวิธีการแบบสุดโต่ง แต่ทำความดีแบบใด ด้วย
วิธีการอย่างไร ก็ยังไม่รู้
3. อัจฉริยภาพของเจ้าชายสิทธัตถะ
เจ้าชายสิทธัตถะทรงมีอัจฉริยภาพในการเจริญสมาธิภาวนา ตั้งแต่ทรงพระเยาว์ พระองค์
สามารถทำใจให้หยุดนิ่งอยู่ภายในกาย อย่างต่อเนื่องครั้งละนานๆ บรรลุสมาธิ ระดับปฐมฌาน
ตั้งแต่พระชนมายุ 7 พรรษา เพราะฉะนั้น “ใจ” ของพระองค์จึงมีความผ่องใส สว่างไสวเป็นปกติ
1) พระองค์ไม่ตกอยู่ในความเมาในชีวิต
เพราะความมีใจผ่องใสเป็นปกติเป็นผลให้พระองค์ทรงเฉลียวพระทัยตั้งแต่วัยหนุ่มว่า
มนุษย์ทั้งโลกต่างตกอยู่ในความเมา 3 ประการ อันเป็นเหตุให้ดำเนินชีวิตด้วยความประมาท คือ
หลงเข้าใจผิดว่า
1. ตนเองยังอยู่ในวัยหนุ่มสาว อีกนานกว่าจะตาย คือ มีความเมาในวัย
2. ตนเองยังแข็งแรง ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บเบียดเบียน คงจะยังแข็งแรงต่อไปอีกนาน คือ
มีความเมาในความไม่มีโรค
3. ตนเองแม้มีอายุมาก แต่ก็คงอีกนานกว่าจะตาย เพราะผู้อายุยืนและแข็งแรงกว่า
ตนก็มีอยู่อีกมาก ตนก็ควรจะอยู่ต่อไปอีกนานเช่นนั้นด้วย คือ มีความเมาในอายุ
เพราะความเมาในชีวิตทั้ง 3 ประการนี้ ได้ห่อหุ้มใจมนุษย์มานานแสนนาน ทำให้
มนุษย์หลงยึดถือ เอาเรื่องเล่นๆ ไร้สาระ คือ เรื่องกิน กาม เกียรติยศ ชื่อเสียง เงินทอง มาเป็น
สาระสำคัญ แล้วก็หมกมุ่นทุ่มเทให้กับสิ่งเหล่านี้จนหมดเวลาของชีวิต แทนการกำจัดทุกข์โดย
เด็ดขาดและความไม่รู้โดยสิ้นเชิง
2) ความเข้าใจถูกเป็นสัมมาทิฏฐิของเจ้าชายสิทธัตถะ
หลังจากทรงบรรพชา เมื่อพระชนมายุได้ 29 พรรษา พระองค์ได้ทรงร่วมทุ่มเท ศึกษา
156 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ