ข้อความต้นฉบับในหน้า
แต่สิ่งนั้น ๆ ก็ไม่เคยช่วยได้เลย มนุษย์จึงต้องแสวงหาที่พึ่งใหม่ต่อไป แม้ปัจจุบัน การ
หาที่พึ่งในทำนองนี้ก็ยังมีอยู่
แสวงหาก
3) มนุษย์ตั้งข้อสังเกต
ไม่ว่าตนจะยึดถืออะไรเป็นที่พึ่งก็ตาม ความจริงที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงเลย คือ
3.1) ทุกคนต้องตาย แต่ทำไมต้องตายก็ไม่รู้
3.2) ความตายไม่มีนิมิตหมาย จะตายเมื่อไร ที่ไหน ด้วยอาการอย่างไรก็ไม่มี
ใครรู้ล่วงหน้าเลย
3.3) ไม่มีใครรู้จริงเกี่ยวกับชีวิตหลังความตาย ได้แต่คาดเดาทั้งสิ้น ความกลัว
ตายจึงท่วมท้นทับใจ
4) ในที่สุดนักปราชญ์แต่ละยุค ต่างต้องยอมรับความจริงของชีวิตว่า
4.1) ชีวิตนี้เป็นทุกข์ เพราะ
1. การเกิดเป็นทุกข์
2. ความแก่เป็นทุกข์
3. ความตายเป็นทุกข์ เนื่องจาก (1) ยังมีห่วง (2) ไม่รู้จะทรมานขนาด
ไหนตอนใกล้ตาย (3) ตายแล้วจะไปไหนต่อ แต่น้อยคนนักที่อยากตาย
4. การดำเนินชีวิตเป็นทุกข์ แล้วเมื่อไรจะหมดทุกข์ก็ไม่รู้
4.2) ชีวิตเกิดมาพร้อมกับความไม่รู้ - ไม่มีใครรู้จริงเรื่องอะไรเลย ต่างต้องมา
เรียนรู้ในภายหลัง ซึ่งมีทั้งรู้ถูกและรู้ผิด
ทำให้ผู้นั้น
5) ความคับแค้นใจของนักปราชญ์
“จะมีอะไรสักอย่างหรือไม่ (The Unknown Factor)” หากใครเข้าถึงแล้วย่อมมีฤทธิ์
1. หมดความทุกข์โดยเด็ดขาด
2. หมดความไม่รู้โดยสิ้นเชิง
คำถามด้วยความคับแค้นใจนี้ได้นำไปสู่การดิ้นรนค้นหาคำตอบตามความเชื่อ
ต่าง ๆ นานา นับเวลาเป็นหมื่นเป็นแสนปี
บทที่ 4 จั ก ร ธ ร ร ม ห ลั ก การพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 153