ข้อความต้นฉบับในหน้า
ราชคฤห์เศรษฐีก็บอกว่า “ไม่ใช่หรอก ผู้ที่เสด็จมาเป็นผู้ที่อุดมไปด้วยสิริ คือพระผู้มี
พระภาคเจ้าจะเสด็จมาในวันนี้”
สุทัตตเศรษฐีพอได้ยินคำว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จมา ก็เกิดปีติขนลุกขึ้นมาอย่าง
บอกไม่ถูก เพราะตลอดเวลาในใจของท่านนั้นอยากจะพบพระผู้มีพระภาคเจ้า คิดอยู่ในใจว่า
อยากจะพบผู้บริสุทธิ์ ผู้หลุดพ้นแล้วที่จะแสดงธรรมให้เราได้รู้เห็นตามบ้างอยู่ตลอดเวลา แต่
ไม่เคยมีใครมาส่งข่าว เมื่อราชคฤห์เศรษฐีได้พูดถึงว่า บัดนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จมาแล้ว
ท่านสุทัตตเศรษฐีต้องถามย้ำถึง 3 ครั้ง ราชคฤห์เศรษฐีก็ตอบทั้ง 3 ครั้ง ยืนยันว่าบัดนี้พระผู้มี
พระภาคเจ้าเสด็จมาแล้ว สุทัตตเศรษฐีปีติยินดีมาก ปรารถนาจะได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าใน
ทันทีทันใด แต่ก็ไปไม่ได้เพราะเป็นเวลากลางคืน ตัวท่านก็พยายามเร่งเวลา เพื่อจะให้ถึงรุ่งเช้า
คืนนั้นท่านไม่ได้หลับเลย คิดอยู่ตลอดเวลาว่าจะต้องเข้าเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าให้ได้
จนนอนไม่หลับทั้งคืน ใจจดจ่อ จนกระทั่งทนไม่ไหว ใกล้รุ่งก็รีบลุกจากที่เพื่อจะเดินไปเข้าเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า ระหว่างนั้นอมนุษย์ก็เปิดทางให้ เปิดประตูให้สุทัตตเศรษฐีเดินไป
ท่ามกลางความมืด เศรษฐีไม่เคยไปไหนเพียงลำพัง ปกติจะมีข้าทาสบริวารติดตามห้อมล้อม
ไปตลอด แต่คราวนี้ไปเพียงลำพัง เดินอยู่ในความมืดก็เกิดความสะพรึงกลัว ครั่นคร้าม แต่ด้วย
ความตั้งใจมั่น อมนุษย์ตนหนึ่งก็เปล่งเสียง แต่ไม่ปรากฏตัว สนับสนุนว่าให้เดินทางต่อเถิด การ
ได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้าในคราวนี้เป็นสิ่งที่ประเสริฐที่สุด แม้เราจะมีช้างสักหนึ่งแสน มีม้าสัก
หนึ่งแสน มีเทพีผู้มีรูปงามสักหนึ่งแสนคน อย่างละแสนอย่างนี้ แม้มีอยู่ก็ไม่เกิดประโยชน์
เท่ากับการได้พบพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วแสงสว่างก็ปรากฏพอให้สุทัตตเศรษฐีเดินทางต่อไปได้
เป็นอยู่อย่างนี้ถึง 3 คราวทีเดียว คือเมื่อความมืดปรากฏ ความสะพรึงกลัวเกิดขึ้น ก็มีเสียงของ
อมนุษย์ผู้มีบุญนั้นคอยแนะนำเป็นกัลยาณมิตรให้กับสุทัตตเศรษฐีแล้วความสว่างก็เกิดขึ้นอย่างนี้
พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงสอดพระญาณดูในยามใกล้รุ่งว่า ในวันนี้บุคคลใดจะเป็นผู้มี
พ
บุญที่จะรองรับพระธรรมของพระองค์ ทรงสอดพระญาณลงไปในกลางก็พบสุทัตตเศรษฐี มอง
ดูตลอดก็ทรงเห็นว่าสุทัตตเศรษฐีนี้จะเป็นอุปัฏฐากที่สำคัญของเรา จะเป็นผู้เลิศทางอุปัฏฐาก
ฝ่ายอุบาสก กำลังเดินทางมา เราจะต้องไปรับ ในที่สุดพระองค์ก็เสด็จออกไปเดินจงกรมรออยู่
บนเส้นทางนั้น เมื่อสุทัตตเศรษฐีกำลังรำพึงถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่ พระองค์ก็ตรัสเรียกว่า
“สุทัตตะ เราอยู่ตรงนี้ สุทัตตะ เราอยู่ตรงนี้ สุทัตตะ เราอยู่ตรงนี้ มาหาเราเถอะ”
สุทัตตเศรษฐีกำลังนึกถึงพระผู้มีพระภาคเจ้าทั้ง ๆ ที่ไม่เคยเห็น แต่เมื่อมาได้ยินคนที่
ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนเลยเรียกชื่อ และยังรู้ความในใจกล่าวเรียกว่า “เราอยู่ตรงนี้” เพราะคำ
บ ท ที่ 6 อานิสงส์ ข อ ง ก า ร ส ร้ า ง ตั ว ส ร้ า ง ฐ า น ะ ต า ม พุ ท ธ วิธี DOU 225