ความสำคัญของบิดาและกำเนิดสัตว์ GB 304 สูตรสำเร็จการพัฒนาองค์กรและเศรษฐกิจ หน้า 51
หน้าที่ 51 / 263

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความหมายของบิดาที่มีพระคุณต่อบุตรที่เปรียบเสมือนมารดา โดยเน้นว่าบิดามีบทบาทสำคัญทางกายและทางใจ พร้อมทั้งเสนอมุมมองในเรื่องกำเนิดสัตว์ในพระพุทธศาสนา แบ่งประเภทการเกิดสัตว์ออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่ อัณฑชะ, ชลาพุชะ, สังเสทชะ, และโอปปาติกะ ที่ไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ แต่เกิดจากกรรมในอดีต ซึ่งแบ่งตามความเชื่อในพระพุทธศาสนา.

หัวข้อประเด็น

-ความสำคัญของบิดา
-พระคุณของบิดาและมารดา
-ประเภทการเกิดของสัตว์
-โอปปาติกะในพระพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

บิดามี ความหมายว่า บิดามีพระคุณต่อบุตรจริง พระคุณอันยิ่งใหญ่ของบิดาก็ทำนอง เดียวกับของมารดานั่นเอง คือ 9 vde 1. ให้ชวิต 2. เป็นต้นแบบทางกาย 3. เป็นต้นแบบทางใจ เนื่องจากมารดาต้องอุ้มครรภ์อยู่เป็นเวลานานถึง 9 เดือน 10 เดือน ทำให้บางคนมองว่า มารดามีพระคุณมากกว่าบิดา จึงมักจะมีคำถามว่าพ่อกับแม่ใครมีพระคุณมากกว่ากัน ? ในแง่ของการให้กำเนิดนั้น ตอบได้ว่า มีเสมอกัน เพราะถ้าไม่มีพ่อแม่ก็มีลูกไม่ได้ แต่พ่อ ที่ไม่ได้ทำหน้าที่อบรมเลี้ยงดูลูก ย่อมไม่เป็นต้นแบบทางใจให้แก่ลูก บุคคลที่สามารถตรองเห็นพระคุณของแม่ ย่อมมีใจสว่าง เกิดปัญญา ตรองเห็น พระคุณของพ่อตามมาได้โดยง่าย สาระสำคัญของสัมมาทิฏฐิข้อ 8 ที่ว่าบิดามี คือ บิดามีพระคุณต่อบุตรอย่างยิ่ง เช่น เดียวกับมารดา สัมมาทิฏฐิข้อที่ 9 สัตว์ที่เป็นโอปปาติกะมี 1) ความหมายของสัตว์ที่เป็นโอปปาติกะ อุปปาติกะหรือโอปปาติกะ หมายถึง สัตวโลกที่ผุดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่ แต่ อาศัยกรรมในอดีต เช่น เทวดา พรหม สัตว์นรก เปรต และอสุรกาย 4 คือ ความรู้เรื่องกำเนิด 4 จะทำให้เกิดความเข้าใจเรื่องโอปปาติกะได้ไม่ยาก พระพุทธศาสนาอธิบายว่า การเกิดของสัตวโลกแบ่งออกเป็น 4 ประเภท เรียกว่า กำเนิด 1. อัณฑชะกำเนิด คือ เกิดในฟองหรือจากฟอง เช่น ไก่ นก เป็นต้น 2. ชลาพุชะกำเนิด คือ เกิดในครรภ์ หรือจากครรภ์ ได้แก่ สัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม เป็นส่วนมาก เช่น คน สุนัข เป็นต้น 3. สังเสทชะกำเนิด คือ เกิดในสิ่งโสโครก หรือจากสิ่งโสโครกในซากศพบูดเน่า ในน้ำเน่า อาหารบูดเน่า ได้แก่ จุลินทรีย์สัตว์เซลล์เดียวชนิดต่างๆ เป็นต้น 40 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More