การอดทนต่อความไม่ดีและการพัฒนาสังคม GB 304 สูตรสำเร็จการพัฒนาองค์กรและเศรษฐกิจ หน้า 120
หน้าที่ 120 / 263

สรุปเนื้อหา

ในสังคมปัจจุบัน มีความท้าทายจากคนพาลและอบายมุข พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เห็นภัยเหล่านี้และส่งเสริมให้คนดีรวมตัวกัน วิธีการป้องกันและคุ้มครองต้องมีความร่วมมือกัน เพื่อไม่ให้คนดีต้องตกเป็นเหยื่อของคนไม่ดี โดยทรงเน้นการพัฒนากลุ่มคนดีในสังคมให้เข้มแข็งและร่วมมือกันเพื่อพัฒนาสังคมให้ดีที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะมองเห็นภัยและร่วมมือกันเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย

หัวข้อประเด็น

-การอดทนต่อคนพาล
-วิธีป้องกันอบายมุข
-การคุ้มครองคนรอบข้าง
-ความสำคัญของการรวมกลุ่มคนดี
-การพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

1) เราจะอดทนต่อการกระทบกระทั่งกับคนพาลด้วยวิธีการอย่างไรปฏิบัติจริงได้แค่ไหน ได้นานเท่าไหร่ ? 2) เราจะอดทนต่อความเย้ายวนของอบายมุขที่มีปากทางสนุกแต่บั้นปลายฉิบหาย ด้วยวิธีการอย่างไร ปฏิบัติจริงได้แค่ไหน ได้นานเท่าไหร่ ? 3) เราจะคุ้มครองหมู่ญาติพี่น้อง มิตรสหาย และบริวาร ให้ปลอดภัยจากคนพาล ไม่ ตกเป็นทาสอบายมุขด้วยวิธีการอย่างไร ปฏิบัติจริงได้แค่ไหน ได้นานเท่าไหร่ ? 4) เราจะคุ้มครองทรัพย์สมบัติของเราให้ปลอดภัยจากการข่มเหงรังแกของหมู่คนพาล ได้นานเท่าไหร่ ด้วยวิธีการอย่างไร ปฏิบัติจริงได้แค่ไหน ? นี่คือภัยในปัจจุบันที่ต้องมองเห็นให้ชัดเจน เพราะถ้าไม่เห็นภัยตรงนี้ คนดีก็จะต่างคน ต่างอยู่กันต่อไป แล้วก็ปล่อยให้คนพาลรวมตัวกันเป็นเครือข่ายโค่นล้มคนดีไปทีละคนๆ ผลสุดท้ายวันหนึ่งภัยจากคนพาลเหล่านั้น ก็ต้องมีอันตรายมาถึงตัวเราอย่างแน่นอน อุปมาเหมือนต้นไม้ใหญ่ ถึงจะสร้างลำต้นกิ่งใบได้อุดมสมบูรณ์แค่ไหน แต่เมื่อเติบโตอยู่ เพียงลำพัง ก็ยากจะต้านทานลมพายุร้ายไว้ได้ ต้องถูกแรงลมพัดโค่นล้มลงอย่างเดียวดายแน่นอน ผิดกลับหมู่ไม้ที่ขึ้นเป็นดงหนาแน่น ไม่เติบโตอยู่เพียงลำพัง แม้ถูกพายุร้ายโหมกระหน่ำรุนแรง เพียงไหน ย่อมต้านทานลมพายุได้ด้วยกำลังหมู่ไม้ที่เป็นญาติสนิท มิตรสหาย และบริวารของตน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงเห็นภัยเหล่านี้ล่วงหน้าตั้งแต่ครั้งยังเป็นพระโพธิสัตว์ พระองค์จึงทรงขยันสร้างเครือข่ายคนดีและขยันพัฒนาท้องถิ่นให้เหมาะแก่การทำความดีทุก รูปแบบขึ้นมานับภพนับชาติไม่ถ้วน พระองค์ทรงไม่ปล่อยให้คนดีมีสภาพต่างคนต่างอยู่ จน เป็นเหตุให้ศีลธรรมตายสนิทไปจากสังคมเหมือนคนทั่ว ๆ ไป แต่ทรงใช้ทั้งปัญญา ความบริสุทธิ์ กาย วาจา ใจ และน้ำใจกรุณาต่อผู้อื่น รวบรวมหมู่คณะมาร่วมกันพัฒนาท้องถิ่น พัฒนาสังคม พัฒนาประเทศ พัฒนาโลกให้มีมาตรฐานศีลธรรม เป็นโลกที่มีบรรยากาศที่เหมาะแก่ประพฤติ ปฏิบัติธรรมมาทุกภพทุกชาติ จนกระทั่งแม้พระองค์ได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในชาติ สุดท้ายแล้ว แต่ยังทรงมุ่งมั่นสั่งสอนชาวโลกให้ทั้งฝึกฝนอบรมตนและร่วมกันพัฒนาสังคมโลก ให้เหมาะแก่การสร้างความดีต่อไป ความรู้จริงอันใดที่เป็นหลักธรรมซึ่งเกิดจากประสบการณ์สร้างความดีอย่างถูกต้อง ซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีกมานับภพนับชาติไม่ถ้วนจนกระทั่งกลายเป็นความรู้จริงที่ถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์ แบบแล้ว พระองค์ทรงแนะนำสั่งสอนให้ชาวโลกได้มีความรู้จริงในเรื่องนั้น โดยไม่มีปิดบัง บทที่ 4 จั ก ร ธรรม หลักการพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 109
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More