การเผยแผ่ธรรมวิถีสอนพระพุทธศาสนา GB 304 สูตรสำเร็จการพัฒนาองค์กรและเศรษฐกิจ หน้า 160
หน้าที่ 160 / 263

สรุปเนื้อหา

การเผยแผ่ธรรมะต้องมีจิตใจบริสุทธิ์และไม่เห็นแก่ลาภ โดยไม่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย และต้องมุ่งสอนเพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจจริง ถึงแม้ว่าจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ก็ตาม การพูดต้องชัดเจนและใช้วิธีการสื่อสาร เช่น ขยายความและยกอุทาหรณ์เพื่อให้ผู้ฟังเข้าใจอย่างถูกต้องในเนื้อหา นอกจากนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังวางหลักการเผยแผ่ธรรมไว้ให้อย่างรอบคอบ และมีคุณสมบัติควบคุมที่รัดกุมเพื่อความถูกต้องและสนองต่อประชาชนได้ดีที่สุด การนำเสนอควรทำให้เกิดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้ฟังอยากทำตามอย่างจริงจังโดยไม่เป็นอุปสรรคหรือบิดเบือนความจริงของธรรม

หัวข้อประเด็น

-การเผยแผ่ธรรมะ
-คุณสมบัติการสอน
-จูงใจผู้ฟัง
-กระบวนการสอนตามหลักพระพุทธศาสนา
-การนำเสนออย่างชัดเจน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4) ต้องไม่แสดงธรรมเพราะเห็นแก่ลาภ คือไม่เห็นแก่ชื่อเสียง คำสรรเสริญเยินยอ ลาภสักการะ เพราะฉะนั้น ไม่ว่าการเล่าธรรมะนั้นจะมีค่าตอบแทนหรือไม่ จะมีคนฟังมากน้อย เท่าไหร่ก็ไม่ถือเป็นอารมณ์ เล่าธรรมะอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ว่าบ้านของคนใหญ่โตก็เล่าอย่างเต็มที่ แต่บ้านของคนกระจอกงอกง่อยก็เล่าธรรมะกะล่อมกะแล่มไม่เป็นเรื่องเป็นราวต้องไม่ใช่อย่างนั้น ถ้าผู้ใดเล่าธรรมะเพราะเห็นแก่ลาภ ผู้นั้นก็เป็นเพียงลูกจ้างของคนฟัง ที่พูดด้วยน้ำเสียงประจบ ประแจงเจ้าของบ้านซึ่งเป็นนายจ้าง ธรรมะข้อนั้นก็จะถูกปรุงแต่งบิดเบือนจนเสียหาย ไม่ตรง ตามที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสอนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อผู้พูด ผู้ฟัง และพระพุทธศาสนา 5) ต้องไม่แสดงธรรมกระทบตนเองหรือผู้อื่น คือไม่ฉวยโอกาสยกตัวอย่างความ ดีของตนเองเพื่อโอ้อวด หรือยกความผิดพลาดของคนอื่นเป็นตัวอย่างเพื่อประจานความผิดของ เขา ไม่ใช่ถือว่ามีไมโครโฟนอยู่ในมือ ก็คุยอวดตัวทับถมคนอื่นเรื่อยไป ผู้พูดต้องมุ่งอธิบาย ธรรมะจริง ๆ หากจะยกตัวอย่างเรื่องใดประกอบ เพื่อเป็นข้อสนับสนุนให้ผู้ฟังเข้าใจข้อธรรมะที่ แสดง ก็ต้องระวังไม่ให้ผู้อื่นเสียหาย การฉวยโอกาสเวลาแสดงธรรมใส่ร้ายป้ายสีผู้อื่น เป็นการ กระทำผิดหลักธรรมคำสอนของศาสนาพุทธ เราจะเห็นได้ว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงวางวิธีการเผยแผ่ศาสนาของพระองค์ ไว้อย่างรอบคอบ แทนที่จะมุ่งแต่แผ่อิทธิพลศาสนาของพระองค์และทับถมโจมตีศาสนาอื่น กลับ ทรงวางคุณสมบัติควบคุมผู้ทำการสอนพระพุทธศาสนาไว้อย่างรัดกุมซึ่งหาได้ยากในศาสนาอื่นๆ 4.3) การจูงใจผู้ฟัง นอกจากการเล่าธรรมะด้วยความบริสุทธิ์ใจให้ถูกต้องทั้งเนื้อหา การนำเสนอ เวลา และอารมณ์ผู้ฟังแล้ว ยังต้องมีวิธีพูดจูงใจให้อยากทำตามด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอน ให้รู้จักจูงใจคนฟังด้วยลีลาที่น่าฟังไว้ 4 ประการดังนี้ คือ 1) สันทัสสนา คือ การพูดให้แจ่มแจ้งชัดเจน ไม่ใช่การพูดมาก หรือพูดยาวๆ แต่ หมายความว่า หาวิธีพูดจาให้คนฟังเข้าใจเรื่องที่พูดนั้นชัด ๆ ให้เห็นจริงตามที่ผู้พูดเสนอ การที่ จะทำได้อย่างนี้ ผู้พูดต้องใช้ความคิด มีการเตรียมการอย่างดีว่าพูดวิธีใด หรือใช้มาตรการใดใน 4 อย่างต่อไปนี้ คือ 1. ขยายความ 2. อุปมาอุปไมย 3. ยกอุทาหรณ์ 4. ใช้อุปกรณ์ เช่น รูปภาพ, แผนภาพ เป็นต้น บทที่ 4 จั ก ร ธรรม หลักการพัฒนาตนเอง และฐานะทางเศรษฐกิจ... DOU 149
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More