ข้อความต้นฉบับในหน้า
5.2.2 เสี
เสื่อมกัลยาณมิตร
บุคคลใดก็ตามที่มีความอวดดื้อถือดี ย่อมมองว่าตนเองมีดีกว่าคนอื่น ดูถูกคนอื่นว่า
ไม่คู่ควรที่จะว่ากล่าวสั่งสอนตัว และเมื่อมีความคิดอย่างนี้อยู่ในใจ ในที่สุดก็จะเมาความโตของ
ตนเอง จนทำให้ผู้นั้นขีดวงขังตัวเอง คนประเภทนี้จึงกลายเป็นคนไม่มีคนคบค้าสมาคมด้วย ซึ่ง
เป็นเหตุแห่งความเสื่อม มีอยู่ 2 ประการด้วยกัน คือ
1) เสื่อมปัญญา
คนที่อวดดื้อถือดีจะคิดอยู่ในใจเสมอว่าตนเองมีดีกว่าบุคคลอื่นๆ ทำให้ใครจะพูดอะไร
ก็ไม่ฟังทั้งสิ้น ดังนั้นจึงกลายเป็นคนขาดความกระตือรือร้นในการฝึกฝนตนเอง ขาดความ
สนใจที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และขาดการรับฟังสิ่งต่าง ๆ ที่จะเป็นประโยชน์แก่ตน ทั้งความอวดดื้อ
ถือดีที่มีอยู่ในตนจะทำให้ไม่มีใครอยากเข้าใกล้หรือแนะนำสิ่งที่มีประโยชน์ให้ เพราะคิดว่าบอก
ไปก็คงจะไม่เกิดประโยชน์ทั้งยังอาจถูกดูหมิ่นกลับมาอีกด้วย ในที่สุดก็จะเสื่อมปัญญา ดวง
ปัญญาที่มีก็จะคับแคบลงทั้งยังไม่รับความรู้ ความดีหรือสิ่งที่มีประโยชน์เพิ่มเข้าไปอีก ทำให้ใน
ที่สุดก็จะกลายเป็นคนโง่ที่ไม่มีใครอยากคบหาด้วย
2) เสื่อมความปลอดภัย
เมื่อไม่มีใครอยากคบหาด้วยแล้ว เมื่อมีสถานการณ์ใดๆ เกิดขึ้นย่อมไม่มีใครอยากบอก
ทั้งตนเองก็ไม่คิดจะถามใคร จึงทำให้ไม่สามารถรับรู้ข่าวสารความเป็นไปต่างๆ ที่เกิดขึ้น อย่าง
กะทันหันได้ จึงทำให้ไม่ทันได้ระวังตัว เพื่อหาทางป้องกัน หรือเตรียมการรับมือไว้ล่วงหน้า ซึ่ง
อาจส่งผลให้เกิดอันตรายทั้งต่อตนเอง ครอบครัว หรือธุรกิจที่ตนมีอยู่ได้
นอกจากนี้คนที่มีความอวดดื้อถือดี ถ้าหากบุคคลอื่นรู้ว่าจะมีภัยใด ๆ มาถึงตัว หรือมี
คนคิดร้าย เขาย่อมไม่บอก ไม่สนใจ และไม่คิดที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ เพราะคิดว่าคงเก่งอยู่แล้ว
คงสามารถเอาตัวรอดได้ คนที่อวดดื้อถือดีย่อมหาความมั่นคงในชีวิตและทรัพย์สินได้ยาก
5.2.3 เสื่อมหมู่คณะ
หมู่คณะใดก็ตามที่มีคนอวดดื้อถือดีหมู่คณะนั้นย่อมมีความสั่นคลอนเกิดขึ้นอยู่ภายใน
รอวันที่จะแตกและพังลงไม่วันใดก็วันหนึ่ง ซึ่งเกิดจากความเสื่อมตนเอง และเสื่อมกัลยาณมิตร
ดังที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งยังส่งผลต่อหมู่คณะอีกด้วย ความเสื่อมที่เกิดขึ้นกับหมู่คณะนี้แบ่งได้เป็น
3 ลักษณะ คือ
182 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ