ข้อความต้นฉบับในหน้า
สร้างความรู้ให้กับเราอย่างมากทีเดียว ยิ่งถ้าเราอ่านมากเท่าไหร่ก็เท่ากับว่าเราได้รับสติปัญญา
ของคนมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้นการอ่านจึงเป็นสิ่งที่ทำให้เราได้ปัญญาอย่างมหาศาลทีเดียว
3.3) การคิดพิจารณา คือ การนำความรู้ที่ได้จากการฟังและการอ่านมา
พิจารณาด้วยปัญญาของเรา โดยไตร่ตรองจนเกิดความรู้ขึ้นมา และสามารถนำความรู้นั้นไป
ประยุกต์ใช้กับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เราต้องเจอได้
3.4) การนั่งสมาธิ คือ การทำใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เพื่อปล่อยวาง
เรื่องราวต่าง ๆ ที่สร้างความกังวลต่าง ๆ ออกไปจากใจ เพื่อให้ใจเกิดความสุขสดชื่นภายใน เมื่อ
ใจหยุดนิ่งถูกส่วนย่อมเข้าถึงธรรมะภายใน อันเป็นการสร้างปัญญาที่ทำให้ใจสว่างและมีความ
สุขในการคิด พูด ทำอยู่ตลอดเวลา ทำให้ไม่ว่าจะต้องไปประสบพบกับแรงกดดันเพียงไหน
ใจย่อมมีที่พึ่ง ไม่หวั่นไหวอุปสรรคใดๆ โดยง่าย และทำให้ใจมีคุณภาพในการมองหาทางออก
ได้สําเร็จ
4) วิธีรักษาปัญญา
การที่บุคคลจะสามารถสร้างและสั่งสมปัญญาให้เกิดขึ้นในตัวได้นั้นไม่สามารถใช้เวลา
เพียงชั่ววินาที บางคนใช้เวลาหลายปี บางคนใช้เวลาทั้งชีวิต หรือแม้แต่ต้องใช้เวลาหลายภพ
หลายชาติเพื่อสร้างปัญญาให้เกิดขึ้นในตัว ดังนั้นเมื่อเรามีปัญญาแล้วเราก็ต้องรู้จักวิธีรักษา
ปัญญา เพื่อไม่ให้เวลาที่เราสู้อุตส่าห์ใช้เพื่อเป็นทางมาแห่งปัญญาของเรานั้นต้องเสียเปล่า
โดยการไม่มีทิฏฐิมานะ
เพราะบุคคลใดก็ตามหากเกิดทิฏฐิมานะขึ้นในใจแล้วปัญญาที่มีอยู่ย่อมถูกบดบัง และ
เมื่อเกิดทิฏฐิมานะขึ้นแล้วสิ่งที่เกิดตามมาก็คือ อคติ 4 พอเกิดอคติขึ้นแล้ว ปัญญาที่มีก็เหมือน
ไม่มี เพราะไม่เลือกทำตามปัญญาที่เห็น แต่กลับไปทำตามกิเลสที่สอน สุดท้ายก็จะทำให้มี
วินิจฉัยผิด คำพูด และการกระทำก็จะผิดไปด้วย และเมื่อทำบ่อยๆ เข้า ในที่สุดปัญญาที่มีก็จะ
เสื่อมไปทีละน้อยในที่สุดปัญญาที่เคยมีก็จะหมดไป
การที่จะทำให้สามารถมีสิ่งใดมาบดบังปัญญาของเราได้นั้น เราต้องรู้จักใช้ปัญญา
ของเราให้เต็มประสิทธิภาพ ทำอะไรก็ทำด้วยความตรงไปตรงมามีสติกำกับอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้
กิเลสทั้งหลายมาเป็นจุดอ่อนในการทำให้ปัญญาที่เราสั่งสมมาต้องหมดไป
5) วิธีการเพิ่มพูนปัญญา
การที่เราได้ปัญญาจากการฟัง การอ่าน และการคิดพิจารณานั้น ยังเป็นแค่ปัญญาใน
บทที่ 3 เศรษฐศาสตร์เชิงพุทธ หลักการสร้างฐานะเพื่อความสุข... DOU 99