ข้อความต้นฉบับในหน้า
พูดแล้ว รีบติดตามพระปัจเจกพุทธเจ้าไป ครั้นพอไปทันแล้วจึงกราบเรียนถามว่า “ข้าแต่
พระคุณเจ้า กระผมจะแบ่งส่วนบุญให้แก่ท่านเศรษฐีผู้มาขอแบ่งได้หรือไม่ขอรับ”
“ส่วนบุญนั้นแบ่งได้ บุรุษผู้เจริญ” เมื่อพระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวดังนี้แล้ว ได้พูดอุปมา
ให้อันนภาระฟังว่า
“มีประทีปดวงหนึ่ง จุดอยู่ในเรือนหลังหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ในหมู่บ้านอันมีอยู่ 100 ตระกูล
คนอื่น ๆ ต่างคนต่างได้นำเอาตะเกียงดวงอื่นๆ มาจุดต่อจากประทีปดวงที่จุดไว้ก่อนนั้น แสง
ประทีปดวงก่อนจะหมดไปหรือไม่หมดเล่า บุรุษ”
อันนภาระกราบเรียนตอบว่า “ไม่หมดไปหรอก มีแต่จะยิ่งส่องแสงสว่างมากขึ้นขอรับ”
พระปัจเจกพุทธเจ้ากล่าวว่า “ข้ออุปมานี้ ฉันใด เมื่อบุคคลให้ส่วนบุญแก่ผู้อื่น บุญนั้น
ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นฉันนั้น”
อันนภาระทราบความนั้นแล้วจึงกราบลาพระปัจเจกพุทธเจ้ากลับมาหาท่านสุมนเศรษฐี
บอกแบ่งส่วนบุญนั้นให้
ท่านสุมนเศรษฐีบอกว่า “เธอรับเงินหนึ่งพันกหาปนะนี้ไปเถิด”
“ท่านเศรษฐี มิใช่กระผมขายบิณฑบาต แต่กระผมให้ส่วนบุญแก่ท่านด้วยศรัทธาต่างหาก
ขอรับ” อันนภาระเรียนถึงเจตนาของตน
“อันนภาระ เธอให้ส่วนบุญแก่เราด้วยศรัทธา แต่เราขอบูชาคุณความดีของเธอด้วย
ทรัพย์นี้ เธอจงรับทรัพย์หนึ่งพันกหาปนะนี้ไปเถิด” ท่านเศรษฐีพูดชักจูงเหตุผลเพื่อให้
อันนภาระรับทรัพย์จำนวนนี้ไป
เหตุผลของท่านสุมนเศรษฐี กระทำให้อันนภาระยอมรับเงินจำนวนดังกล่าวนั้น
ครั้นแล้วท่านสุมนเศรษฐีบอกอันนภาระว่า “ตั้งแต่บัดนี้ไป เธอไม่ต้องกระทำงานใด ๆ
ทั้งสิ้นเธอต้องการสิ่งใดเราจะให้สิ่งนั้นเธอประสงค์จะได้อะไรจงให้คนนำเอาไปตามชอบใจเถิด”
อันคุณความดีที่บุคคลสร้างสมไว้แล้ว เมื่อมีโอกาสส่งผลดีให้ สามารถช่วยให้คนที่
กำลังตกทุกข์ไดยกพ้นจากความลำบากได้ดังอันนภาระ
หลักธรรมมีอยู่ว่า ผลบุญที่ใส่บาตรพระปัจเจกพุทธเจ้าผู้ออกจากนิโรธสมาบัติใหม่
และยังไม่ได้รับทานของใครเลย ย่อมบังเกิดผลดีในปัจจุบันทันตาเห็น
เพราะเมื่อท่านสุมนเศรษฐีพาอันนภาระไปเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงพาราณสีในวันนั้นพระเจ้า
242 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ