ข้อความต้นฉบับในหน้า
ภัตตติกเศรษฐี ผู้หลุดพ้นวงจรความยากจนในวัฏสงสาร
ในครั้งอดีตกาล มีเศรษฐีคนหนึ่ง ชื่อคันธเศรษฐี ทราบว่ามีสมบัติอยู่ในสกุลเป็นอันมาก
เขาเห็นว่าทรัพย์ที่บรรพบุรุษสั่งสมไว้เหล่านั้น เมื่อตายแล้วก็เอาติดตัวไปไม่ได้ คนที่แสวงหา
ทรัพย์ไว้เป็นจำนวนมาก แล้วนำติดตัวไปไม่ได้ ได้ชื่อว่าไม่ฉลาดเลย เศรษฐีจึงคิดใหม่ว่า เมื่อ
นำติดตัวไปไม่ได้ ควรนำไปใช้ให้หมด เมื่อคิดเช่นนั้นแล้ว จึงให้บุคคลนำทรัพย์นั้นมาเป็นค่า
เครื่องบริโภค คือค่าอาหารวันละแสนกหาปนะ รวมทั้งสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในชีวิตซึ่งล้วนแต่มี
ราคาแพงทั้งนั้น ความฟุ่มเฟือยของคันธเศรษฐีนั้น เป็นที่รู้กันไปทั่วเมืองพาราณสี ขนาดว่า
เวลาจะรับประทานอาหารยังต้องเชิญให้คนดูเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้เพราะอาหารและอุปกรณ์
ทุกอย่างล้วนแต่เป็นของดีมีราคาแพงทั้งสิ้น
วันหนึ่ง ชายตัดฟืนมาเที่ยวในเมืองเพื่อมาพบเพื่อน เพื่อนก็บอกข่าวนี้ให้ทราบ แล้ว
ชวนกันไปดูเศรษฐีบริโภค ซึ่งมีคนมุงดูอยู่เป็นจำนวนมากแล้ว ขณะที่กำลังดูการบริโภคของ
เศรษฐีนั้น เขาเกิดความอยากกินอาหารเช่นนั้นบ้าง ขนาดที่ว่าไม่ได้ก็ยอมทีเดียว จึงร้องขอ
อาหารเศรษฐี เศรษฐีไม่ยอมให้บอกว่า
“ถ้าให้ท่าน คนอื่นเขาก็จะขอบ้าง อาหารไม่ใช่ราคาเพียงเล็กน้อย มีราคาแพงเป็น
แสนเชียวนะ”
บ
ถึงขนาดนั้น ชายตัดฟืนก็ไม่อาจระงับความอยากในอาหารนั้นได้ จึงบอกเศรษฐีว่า ถ้า
ไม่ได้ เขาคงต้องตายแน่ เศรษฐีจึงบอกว่า
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน
งนี้ก็แล้วกัน ถ้าเจ้าสามารถทำงานให้เราครบ 3 ปีเต็ม เราจะให้อาหารถาดหนึ่ง
ที่มีความประณีตเหมือนกันเลย”
ด้วยความอยากบริโภคอาหาร ชายตัดฟืนจึงรับคำ ตั้งแต่นั้นมาเขาจึงได้มีชื่อใหม่ว่า นาย
ภัตตภัตติกะ แปลว่ารับจ้างทำงานเพื่ออาหารเขาอยู่รับใช้เศรษฐี 3 ปีเต็ม โดยไม่มีข้อบกพร่อง
เลยแม้แต่น้อยคนของเศรษฐีได้มารายงานว่า
“บัดนี้ชายตัดฟืนนั้น ทำงานครบ 3 ปีแล้ว ท่านเศรษฐีจะให้ทำอย่างไร”
เศรษฐีจึงสั่งให้บริวารจัดของทุกอย่างทั้งเครื่องอาบน้ำทั้งผ้านุ่งห่มและอาหารในทำนอง
เดียวกันกับที่เศรษฐีได้ใช้ในวันนั้นพร้อมกับป่าวประกาศให้คนทั่วทั้งเมืองมาดูการบริโภค ครั้ง
ยิ่งใหญ่ของชายตัดฟืนนั้น
208 DOU สูตรสำเร็จ การพัฒนาองค์กร และเศรษฐกิจ