การศึกษาเกี่ยวกับการเรียงศัพท์และนามสนธิ : หน้า 55/197

ปะโยค - ประมวลปัญหาและฉายาบีไวทยาร์ณ (สำหรับเปรียญธรรมตรี) - หน้า 53 ก. สังเกตัได้ตามวิธีที่ท่านเรียงศัพท์เป็นประโยคคำพูด คือที่ ปรุงมาจาก ต ศัพท์ เรียงไห้หน้าศัพท์อื่น ๆ ได้ เช่น ตา ภิญญ คารหยา ส่วนที่ปรุงมาจาก ตุม ศัพท์ ต้องถูกบ่งบดับ คือลียมอืน นำหน้าเสียดก่อน จึงเรียงไวต่ดับต่อไป เช่น โหตุ ต ชมงคล ดังนี้เป็นเครื่องเทียบ [๒๔๓๙] ข. อิ่มสูส ถ้าเป็นนาม ศัพท์เดิมว่าระไร? ในจึงเป็นรูป เช่นนั้น ? ถ้าประสงค์เป็นนามสนธิ จะเป็นสนธอะไรได้บ้างหรือไม่? แสดงข้อข้องคับ ก. อิ่มสูส ถ้าเป็นนาม ศัพท์เดิมว่า อิ่ม ลง ส ขุตดิ หรือ ณัฏฎี จึงเป็นรูปดังนั้น เป็น สะโลปสนธิ และนิกครหติสนธิ อย่าง ต้นดับเป็น อิม = อสูส สะหน้าและสะหลังเคียงกัน ๒ ตัว ไม่มี พืชชนะ คับ ลบได้ออ ในที่นี้ลบ สะหน้าอย่างหลังดับเป็น อิม= อสูส เมื่อมีสะหรือพญานาคะอยู่หลัง ลนบณิคคติซึ่งอยู่หน้าได้ [๒๔๕๖] ค. เอดสูส ถ้าเป็นนาม ศัพท์เดิมว่าระไร? ถ้าเป็นศัพท์สนธิ เป็นสนธอะไรได้บ้าง ? ตัวว่าอะไร ? จงแสดงวิธีด้วย ข. ศัพท์เดิมว่า เอด ลง ส ฑตุติ หรือ ณัฏฎี จึงสำเรีบรร เป็นอย่างนั้น เป็นสะโลปสนธิ และนิกครหติสนธิ อย่างต้นดับเป็น เอด = อสูส สะหน้และสะหลังเคียงกัน ๒ ตัว ไม่มีพญาชนะคับ ลบได้ออ ในที่นี้ลบสะหน้าอย่างหลังดับเป็น เอด = อสูส เมื่อ มีสะหรือพญาชนะอยู่หลัง ลนบณิคติซึ่งอยู่หน้าได้.[๒๔๗๐]