ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ประมวลปัญหาและลายลักษณ์วิภารณ์ (สำหรับเปรียญธรรมตรี) - หน้า 150
อยู่ มีสารอยู่เบื้องหลัง จึงแปลว่า เป็น พ ได้โดยวิธีสนิท.[๒๒๖]
ก. ในอายายะ ในที่เช่นไร ต้องพูทธ์ธันฑรดุ ? ในที่เช่นไร ต้องมีมะที่สุดปัญญาเป็น อา ?
ค. เมื่อจงนิ ยาน นิยม นิยม ปัญญา ต้องพูทธ์ธันฑรดุ เมื่อ มี มิม วิภาคติอุ้ยหลัง ต้องที่มะที่สุดปัญญาเป็น อา.[๒๔๕]
ก. ปัญจ์ที่เนื่องด้วย ณ ในทัศฐมี ในอายายะดมี ต้องการทราบว่า ณ ปัญจ์ในที่ทั้ง ๒ นั้น มีคำว่าเหมือนกันหรือแตกต่างกันอย่างไร ?
ค. อำนาจพูทธ์รืออย่างเดียวกัน but ระ ปัญจ์ในทัศฐดลง ต้องลบ เมื่อจงแล้วต้องพูทธ์ตามลักษณะของพัททุกแห่งไป, ส่วน ณ ปัญจ์ในอายายะดไม่ทำดังนั้นทั้งหมด คืออาม มีความว่าใน ไม่ต้องลงมีก็มิ เช่น สุนทุด ลิได้นะ นิยม นิยม ปัญจ์ในกัณฑ์ว่า เป็นดังดาว เป็นดังดาว แล้วไม่ลบ ก็ไม่ต้องพูทธ์รศะรัตนตุด คงไว้ตามเดิม.[อ.น.].
ก. กัดดูจาก มีปัญจ์อิทธิ ตัวอะไรบ้าง ? มุง ฉินิ ภิก ลง
ปัญจ์ในกัณฑ์ ลงตัวไหนเป็นสังมธุต ลงตัวไหนเป็นอัมมธุต ?
ขอพูดและแปลมดด้วย.
ค. มีปัญจ์ ๑๐ ตัว คือ อ เอ ณ ฯณา นานุ โอ ํ เนะ
นะย ลง อ ปัญจ์ เป็นสังมธุต, ลง ย ปัญจ์ เป็นอัมมธุต,
ที่ลง อ มีรูปเป็น มูจฉติ ฉินนติ ภนุติ แปลว่า ย่อมปล่อย ย่อม
ติ ย่อมทำลาย, ที่ลง ย ปัญจ์ มีรูปเป็น มูจฉติ ฉินนติ วิสุทธิ
แปลว่า ย่อมพัน ย่อมขาด ย่อมแตก.[๒๔๓].