ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ประมวลปัญหาและถลายลักษณ์ไว้อรรถาธิบาย(สำหรับเปรียญธรรมดี) - หน้า 142
เป็นเอกวณะ และพวยจนอเหมือนกัน, ที่ต่างกัน คือ วณะในนาม
นั้น เป็นเครื่องหมายให้ร่ามานามว่ามากหรือน้อย และอยู่ในนามนาม,
ส่วนวานในอาญาขต อยู่ที่พี่กรียา ถ้านามนามเป็นวณะนะไหน
ศพทก็ยกต้องประกอบเป็นวณะนั้น เว้นแต่มนามหลายศพท์
มี จ ศพท์ อยู่ในระหว่าง แม้เป็นเอกวณะ ก็ยกต้องประกอบ
เป็นพวยจนอ เช่น อุปาสโก จอุปสิกา จ โสตาปนนา อเหสี.
[อ.น.]
ถ. เมื่อผู้อ่อนพูดกับผูใหญ่ วีธีแสดงความเคารพด้วยวาจา
อย่างไรหรือไม่?
ฎ. มี, คือ เมื่อผู้อ่อนพูดกับผู้โตก็เดียวนั้นนิมนให้ใช้
มัชฌมุนุษณ์เป็นพุวจน ดังกว่า ตุมฺหฺ ปอฆาสตบริวาร สวดนาย
อวิจกเสท. แต่อย่างเข้าใจว่า เมื่อผู้อ่อนพูดกับผู้ใหญ๋ จะต้องใช้ผม-
บรุษ พุวจน ทุกคราวไป ที่ใช้ในเอกวณะก็มี เช่นคำว่า อุปโฐมาณโย
เม ภูฏ เต โหวที หรือจะใช้ประมุจบรุษ เอกวณะ ในที่ควรใช้ในยม-
บรุษ พุวจน แสดงความเคารพก็ได้เหมือนคำว่า อุปโสกสโก
ภนฺตุ คาวา ทิฏฺฐุมสุนฺจวิมาร อนุญฺโฑ วิรดก. [๒๕๕๖]
[บรุษ]
ถ. บรุษในอาญาขต แบ่งเป็นเท่าไร ? อะไรบ้าง ? จะรู้ว่าเป็น
บรุษอะไรแน่ ต้องถืออะไรเป็นหลัก ?
ฎ. แบ่งเป็น ๑ คือ ประมุข ๒ มัชฌมุข ๑ อุดมมุข ๑.
จะรู้บรุษได้แน่ ต้องถือวิคติเป็นหลัก เพราะวิคติเป็นเครื่องแสดง