ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - ประมวลปัญหาและลายลักษณ์อักษร (สำหรับเปรียญธรรมตรี) หน้า 175
ค. ใช้ศัพท์ก็อาอนขยาย เช่น โกรม เป็นต้น อย่างหนึ่ง ศัพท์
กิริยาก็ที่ส่ง คุทุ ปัจจัย เช่น กาดพูโฟ เป็นต้น อย่างหนึ่ง ศัพท์
กิริยามน เช่น ปอ้น เป็นต้น อย่างหนึ่ง ศัพท์กิริยาอาชาต เป็น
เครื่องหมายรูปวิเคราะห์ ๑ ศัพท์ก็อาอนขยาย เป็นเครื่องหมาย
เฉพาะกัมรูป และ ภาวะรูป ศัพท์ก็อานามเป็นเครื่องหมายภาวะรูป
อย่างเดียว. [ อ. น. ].
ฎ. วิเคราะห์แห่งสาระนั้น ท่านนิยมใช้ศัพท์นามด้วย เมื่อ
เป็นเช่นนี้ จึงอยากทราบว่า สาระไหนใช้ศัพท์นามอย่างไร ?
ขอตัวอย่างด้วย.
ค. กัดสุดสาระ ใช้ศัพท์นามประกอบเป็นปูมาวิจิต แต่
ไม่ได้เรียงไว้วิเคราะห์ เป็นแต่เมื่อแปล เริ่มต้น ผัดด้วยตาม
ลิงค์วานะ เป็นกิดูรูอย่างเดียว เช่น เทติ ภโย แปลว่า
[บุคคลใด] ย่อมให้ เหตุนี้น [ บุคคลนั้น ] ชื่อว่า ผู้ให้.
กัมสาระ ถ้าเป็นกิตูรู ใช้ศัพท์นามประกอบเป็นกุญิว-
วิภัต เช่น ปิยติ คุณ ปิย แปลว่า [ บิดา ] ย่อมรัก ซึ่งบุตรนั้น
เหตุนี้น [ บุตรนั้น ] ชื่อว่า เป็นรัก [ ของบิดา ], ถ้าเป็นกัมรูป
ใช้ศัพท์นามประกอบเป็นปูมาวิจิต แต่ไม่ได้เรียงไว้ในวิเคราะห์
เช่นเดียวกับกัดสุดสาระ เช่น ภูจิตพุทธบดี โภชน แปลว่า [สิ่งใด ]
อนาเขพิงกิน เหตุนี้น [ สิ่งนั้น ] ชื่อว่า อนาบพิงกิน.
ภาวสาระ ไม่ต้องใช้ศัพท์นามในวิเคราะห์ เป็นแต่เวลานปลด
เติมตัว อนภิกัตตา มาเป็นเจ้าของกริยา เช่น คูณินิต คมน์