พระธรรมปิฎก: ความหมายของกรรมดีและกรรมชั่ว พระธัมมปทัฏฐกถา แปลภาค 5 หน้า 22
หน้าที่ 22 / 189

สรุปเนื้อหา

ในข้อความนี้เสนอแนวคิดเกี่ยวกับการมองกรรมดีและกรรมชั่วของบุคคล ซึ่งมีการแสดงถึงความเห็นที่แตกต่างของผู้ที่ทำบาปและกรรมดีในช่วงเวลาที่กรรมยังไม่ให้ผล โดยระบุว่าผู้ทำบาปมักมองว่าบาปคือความดีจนกว่าบาปจะให้ผล ซึ่งจะทำให้เห็นความเป็นจริงเมื่อกรรมดีมีผลตามมา การนำเสนอเนื้อหานี้ส่งเสริมให้ผู้ฟังเข้าใจในความสำคัญของการกระทำและผลที่ตามมาของกรรมในชีวิต.

หัวข้อประเด็น

-ความเข้าใจในกรรมดี
-ความเข้าใจในกรรมชั่ว
-ผลของกรรม
-การตีความพระธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ประโคต - พระธรรมปิฎกถ่ายทอดเนื้อหา หน้า 20 สัมผัสสนิทแสดงธรรม จึงได้คำติพระกาศเหล่านี้ว่า "แม้คนผู้บาบ ย่อมเห็นบาปว่าดี ตลอด ภาคที่บาปยังไม่ผลิดผล แต่มือใด บาปผลิด ผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่ว ฝ่ายคน ทำกรรมดี ย่อมเห็นกรรมดีว่าชั่ว ตลอดกาลที่ กรรมยิ่งไม่ผลิดผล, แต่เมื่อใด กรรมดีผลิด ผล, เมื่อนั้น เขาย่อมเห็นกรรมดีว่าดี [แก่อรรถ] บุคคลผู้ประกอบบาปกรรมมี่ทุจริตทางกายเป็นต้น ชื่อว่าคนผู้บาบ ในพระกถากีนั้น ก็บุคคลแม้มั่น แล้วอิยสสุขอิยสนี้นั้น ด้วยอานุภาพแห่ง สุขจิตกรรมในบางก่อนอยู่ ย่อมเห็นแม้บาปกรรมว่าดี. บาทพระกถากว่า ยาว ปาป น ปฎิจิต เป็นต้น ความว่า บาปกรรมของเขานั้น ยังไม่ให้ผลในปัจจุบันหรือในสัมปรโยท เพียงใด. (ผูทำบาป ย่อมเห็นบาปว่าดี เพียงนั้น). แต่เมื่อใด บาปกรรมของเขานั้นให้ผล ในปัจจุบันหรือในสัมปรโยท, เมื่อ นั้น ผูทำบาปนั้น เมื่อเสวยกรรมดีต่าง ๆ ในปัจจุบันนภ และ ทุกๆในอายุในสัมปรโยทพอ ย่อมเห็นบาปว่าชั่วถ่ายเดียว. ในพระกถากที ๒ (พึงงานนี้ด้วยความดังต่อไปนี้). บุคคลผู้ ๑. วิจิ กุมภรณา ตามรูปเป็นปัญญามีวิซิต แปลตามรูปนั้นไม่ได้ความ จึงหักแปล เป็นทิฏฐิวิปัด ถ้าเป็นรูป วิทิษฐิ กุมภรณาน จะกวดว่า.
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More