ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คำนิชมพระมงรผ้ถูกต้อง ยกพี่ที่แปล ภาค ๖ หน้า ๒๑
ครั้งเมื่อคำว่า (มย) อ. ข้พระองค์ ท. (สนิฐสินนา) เป็นผู้มั้ง
ประชุมกันแล้ว อิมา นาม ถกาย ด้วยถ้อยคำชื่อว่า (อูห) ย่อมมี
(เอตรหี) ในกาลบัดนี้ อิด ดั่งนี้ (แต่ กฤฏกุฎี) อันกิญจุ ท. หลานนั้น
วุดเตง กราบทูลแล้ว ว่า ศรัสแล้วว่า ภูฏาว คู่อ่อนภิกข์ ท.
(เทวฑตูโต) อ. ภิกษุชื่อว่าเทวาทัต (ปริสกฤฎี) ย่อมตะเกียดตะกาย
(วราย) เพื่ออันมิ่า มุขิ หิงเรา นานุปการนเอา ในกาลนี้นึนเทียว น
หนมิได้ เทวทุตโต อ. ภิกษุชื่อว่าเทพวัตต์ ปรีสกฤฎี ตะเกียดตะกายแล้ว
วราย เพื่ออันมิ่า มุขิ หิงเรา นานุปการนเอา โดยประกดัง ๆ
นันเทียว ปุพพลิ ชาตานี ซึ่งชาตา ท. มีกรุงชาติจ ดัน วดวา
ศรัสแล้วว่า ภูฏาว คู่อ่อนภิกข์ ท. ตนหา อ. ตันนา อุปปุนา อันเกิด
ขึ้นแล้ว ทุสสังการนา เพราะเหตุคือความเป็นแห่งบุคคลมีศีลอัน
โทษปะเทบุร้ายแล้ว ปิณอาทิตวา ห่มทอแล้ว สมุญชนา ทักราน
อยู่ ปฏิบัติ ย่อมซัดไป อาจนุปุตสุสีปุกูล นาม ชื่อซึ่งบุคคลผู้มีศีล
อันทำปะทุร้ายแล้วโดยล่วงซึ่งส่วนสุด นิรยาต์ ส ปายสุข ใน
อวยา ท. มีนรกเป็นต้น มาลาว วิจ ราวะ อ. เกล่ายทราย (ปริโย-
นฤทวา สมุญชนา) รวบรับแล้ว ก็ราคนอยู่ สาลา ซึ่งตั้งสละ อิติดังนี้ อ่าน ศรัสแล้ว คำ ว่า พระคาถา อมี นี้ว่า
อุจฺจุฑูตรสุสีย อ. ความเป็นแห่งบุคคลผู้มีศีลอัน
โทษปะเทบุร้ายแล้วโดยอ้างดังส่วนสุด โอตุฏติ
รวบรับแล้ว (อุตตวก) ซึ่งอัดภาพ ยุติสุด