ข้อความต้นฉบับในหน้า
ประโยค - คำบรรักพระมักปฏเป็นชองไป
๕๔. ๑๙๙/๔ ตั้งแต่ เอกวิสร อี สตฺถา เตส ฯ อูโจกิ
เป็นดังไป
อี ความผิดจาก เอกวิสร ใว้นึ่ง สตฺถา อ.พระศาสดา
สุตวา ทรงสถุลแล้ว สฆทั ซึงเสียงว่า ขะขะ ตอนนี้ เตส ฯ
ฉพพูคิยาน ภิกษุของภิกษ ท. ผู้มีพวก ๖ เหล่านนั้น อูโจกิ
หยุดเถิญ ฯ ญฺจิณ คเหตฺวา กฎจูปา ถกฺกอปรีชาเบญ ฯ ฯ
ผู้ถือเอาแล้ว ซึงไม่เท่า ท. ด้วยมือ ท. ทั้งสอง ขึ้นแล้ว สู่ของเท้า
อังคราหำแล้วด้วยไม้ จงกรมอยู่ บนหลังแห่งหิน ปุจฉา วครสทาม
แล้วว่า (เอโอ สตฺถา) อ. เสียงนั้น ฉฑพูคิยาน ภิกษุ
นาม ชื่อว่าเป็นเสียงอะไร (โหติ) ย่อมเป็น อติ ดังนี้ สุตวา ทรง
สตฺถาแล้วว่า (เอโอ สตฺถา) อ. เสียงนั้น ฉฑพูคิยาน ภิกษุ
กฎจูปาทุกิ อารุย ฯ จงฺกนมฤนฺติ างฺคลูตา เป็นเสียงขะขะ
แห่งภิญญู ท. ผูมีพวก ๖ ผู้นั้นแล้ว สู่ของเท้าซ้อนกันแล้วด้วยไม้
จงกรมอยู๋ (โหติ) ย่อมเป็น อติ ดังนี้ ปนบาเปตวา ทรงบัญญัติแล้ว
สุกขาปิ แล้วว่า อดิ ติเต จาก ฯลฯแล้วว่า คฤหบดี นาม กายาตินี
ทวารานิ รุกฺดิ อ. อนชื่ออันภูกษรยา ซึ่งทวาร ฯ มีเท่ามัน
วุฒิตี ย่อมควร อติ ดังนี้ เทสนุต เมืองจะทรงแสดง ธมฺมิ ซึ่งธรรม
อาณิส ได้ทรงภาษิตแล้ว ค่าา ซึ่งพระศาสดา ท.อิมา เหล่านี้ว่า