ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
พระมหากัปปินเถระ
๑๐๘
แผ่นดินเถิด” ตรัสแล้วทรงควบม้าวิ่งไปบนผิวน้ำพร้อมอำมาตย์
พันคน ม้าเหล่านั้นวิ่งไปบนผิวน้ำดุจวิ่งไปบนแผ่นดิน แม้เพียง
ปลายกับก็ไม่เปียกน้ำ
เมื่อพระองค์เสด็จมาถึงแม่น้ำสายที่ ๒ ชื่อ นีลวาหนา
ซึ่งมีความกว้างและลึกประมาณครึ่งโยชน์ พระองค์จะหาแพ
หรือเรือก็ไม่มี พระองค์ดำริถึงการเสียเวลาในการแสวงหา จึงตั้ง
สัตยาธิษฐานว่า “เราไม่มีความคลางแคลงสงสัยในพระรัตนตรัย
และออกบวชอุทิศชีวิตเพื่อพระธรรม ด้วยอานุภาพของธรรม
รัตนะ ขอแม่น้ำนี้จงเป็นเหมือนแผ่นดินเถิด” ตรัสแล้วทรงควบ
ม้าไปบนผิวนํ้าได้อย่างอัศจรรย์
เมื่อมาถึงแม่น้ำสายที่ ๓ ชื่อ จันทภาคา กว้างและลึก
ประมาณ ๑ โยชน์ แม่น้ำนั้นเต็มเปี่ยม จะหาแพหรือเรือก็ไม่มี
พระองค์ดำริเช่นเดิม และตั้งสัตยาธิษฐาน “ระลึกถึงคุณของ
พระสงฆ์” แล้วได้เสด็จไปบนผิวน้ำได้อย่างอัศจรรย์เช่นเดียวกัน
ในเวลาย่ำรุ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงตรวจดูสัตวโลกว่า
ผู้มีบุญท่านใดหนอ จะเข้ามาในข่ายพระญาณ ทรงทราบว่าพระ
มหากัปปินะออกผนวชอุทิศเฉพาะพระองค์ จึงทรงเหาะไป
ประทับรออยู่ใต้ต้นไทรใหญ่ ทรงนั่งสมาธิคู่บัลลังก์ แล้วเปล่ง
ฉัพพรรณรังสีไปหาพระราชา จนทำให้บริเวณนั้นมีสีเหลืองทอง