ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
อนาถบิณฑิกเศรษฐี (มหาเศรษฐีเทพบุตร)
៣៨៤
อนาถบิณฑิกเศรษฐีเห็นว่า เจ้าเชตเป็นผู้เรื่องพระนาม
มีคนรู้จักมาก จึงตอบตกลง เมื่อสร้างวัดสำาเร็จลุล่วง จึงให้
สร้างซุ้มประตูหน้าวัด โดยตั้งชื่อว่า วัดพระเชตวัน แล้วสร้าง
วิหารหลายหลังไว้ในวัด อีกทั้งก่อสร้างกำแพง ซุ้มประตู ศาลา
หอฉัน โรงไฟ วัจกุฎี ที่จงกรม บ่อน้ำ สระโบกขรณี มณฑป
และสถานที่ต่างๆ จนเป็นที่พอใจ
เมื่อสร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว พระบรมศาสดาเสด็จมา
เป็นองค์ประธานในการรับถวายวัดพระเชตวัน ทรงกระทำ
อนุโมทนากับท่านมหาเศรษฐีว่า “วิหารย่อมป้องกันหนาวร้อน
และสัตว์ร้าย ป้องกันงู และยุง กันลมกันฝน นอกจากนั้น
วิหารยังป้องกันแสงแดดอันแรงกล้าที่เกิดขึ้นได้ การถวายวิหาร
แก่สงฆ์เพื่อหลีกเร้นอยู่ เพื่อความสุข เพื่อเพ่งพิจารณา และ
เพื่อให้เห็นแจ้ง พระพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ทรงสรรเสริญว่า
เป็นทานอันเลิศ เพราะเหตุนั้นแล คนผู้ฉลาด เมื่อเล็งเห็น
ประโยชน์ตน พึงสร้างวิหารอันรื่นรมย์ให้ภิกษุทั้งหลายเถิด”
ดังนี้ จะเห็นได้ว่าการทำบุญถวายมหาวิหารนั้น ถือว่า
เป็นบุญใหญ่ เป็นการขยายงานของพระพุทธศาสนาให้กว้างไกล
ออกไป ให้เป็นที่พึ่งต่อชาวโลก อีกทั้งเป็นการสืบต่ออายุ
พระพุทธศาสนาให้ดำรงคงอยู่คู่โลกตลอดไป เราทั้งหลายควร
ยึดเอาท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐีเป็นแบบอย่าง