ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชll
สามเณร นิโครธ (๓)
๒๖๔
พระเถระถวายพระพรว่า “มหาบพิตร ผู้ถวายปัจจัยได้ชื่อ
ว่าผู้อุปัฏฐากเท่านั้น ผู้ใดจึงถวายจตุปัจจัย กองตั้งแต่แผ่นดิน
สูงจรดถึงพรหมโลก ผู้นั้นยังไม่ถึงความนับว่า เป็นทายาทใน
พระศาสนาได้ ส่วนบุคคลใดให้บุตรผู้เป็นโอรสของตนบวช
บุคคลนี้ท่านเรียกว่าเป็นทายาทแห่งพระศาสนา” พระเจ้าอโศก
เมื่อได้ฟังวิสัชนาเช่นนั้นแล้ว ก็ปรารภกับพระกุมาร ซึ่งตาม
ปกติก็มีพระประสงค์อยากจะผนวชอยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้โอกาส
ครั้นพระบิดาตรัสถาม พระกุมารเกิดมหาปีติที่ตนจะได้โอกาส
บรรพชา จึงทูลขออนุญาตบรรพชา เมื่อได้รับอนุญาตแล้ว
มหินทกุมารพร้อมด้วยพระธิดาสังฆมิตตาก็ออกบรรพชา
บวชได้ไม่นานก็บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ตั้งแต่นั้นมา พระเจ้าอโศกก็ได้ชื่อว่าเป็นญาติกับพระ
ศาสนา และช่วยทะนุบำรุงพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่เต็มกําลัง
พระพุทธศาสนาก็เจริญรุ่งเรืองไปทั่วชมพูทวีปอีกครั้งหนึ่ง ทรง
เป็นองค์อุปถัมภ์ในการสังคายนาพระไตรปิฎก ส่งพระธรรมทูต
ไปเผยแผ่ต่างประเทศทั่วโลก และทรงส่งพระโสณกเถระกับ
พระอุตตรเถระมาที่สุวรรณภูมิ ซึ่งก็คือแถบประเทศเขมร ไทย
ลาว พม่านี่เอง
เราจะเห็นว่า การได้เห็นสมณะหรือเห็นสามเณรผู้เป็น