ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
ปชาบดีเถรี ผู้รัตตัญญู (๓)
២៩២
กายเนื้อบ้าง บังพระอาทิตย์กับพระจันทร์ด้วยปลายนิ้วมือบ้าง
หรือเนรมิตน้ำในมหาสมุทรทั้ง ๔ ไว้บนฝ่ามือข้างหนึ่ง แล้วทำ
พายุฝนที่เป็นดุจมหาเมฆบนภูเขายุคันธรให้ตกลงบ้าง
พระเถรีแสดงฤทธิ์เสร็จแล้ว ลงจากนภากาศเข้าไป
ถวายบังคมพระบรมศาสดาเป็นครั้งสุดท้าย และกราบทูลลาว่า
“ข้าแต่พระโลกนาถเจ้า หม่อมฉันเป็นพระมาตุจฉาของพระองค์
เป็นผู้ทําตามคําสอนของพระองค์ ได้บรรลุประโยชน์ของตน
โดยลำดับแล้ว มีอายุได้ ๑๒๐ ปีแล้ว ถึงกาลอันควรที่หม่อมฉัน
จักขอถวายทูลลาดับขันธนิพพาน”
ฝ่ายอุบาสิกาในพระนครผู้มีความเคารพรักในพระเถรี
ได้สดับถึงการปลงอายุสังขารของพระนางปชาบดีโคตมีแล้ว
ต่างพากันร้องไห้พิไรรำพัน พระเถรีกล่าวสอนว่า “ลูกทั้งหลายเอ๋ย
การพร่ำเพ้อซึ่งเป็นไปในบ่วงมารไม่สมควรเลย สังขตธรรมทั้งปวง
ล้วนไม่เที่ยง มีแต่จะพลัดพรากจากกัน หวั่นไหวไปมา ท่าน
ทั้งหลายจงเป็นผู้ไม่หวั่นไหวในการจากไปของเรา จงยินดีใน
พระนิพพานเถิด” พอสิ้นคำกล่าว พระเถรีเข้าฌานสมาบัติไป
ตามลำดับ จนถึงเนวสัญญานาสัญญายตนฌาน และเข้าสัญญา
เวทยิตนิโรธสมาบัติไปโดยอนุโลม และปฏิโลม เข้าปฐมฌานไปจน
ถึงจตุตถฌาน ครั้นออกจากจตุตถฌานแล้วก็เข้านิโรธสมาบัติ