ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชll
อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ยอดกัลยาณมิตร)
๓๕๖
เปิดผอบแก้วอันเต็มด้วยของหอมต่างๆ อันมีกลิ่นหอมด้วยของ
หอมอันเป็นทิพย์ เพราะอานุภาพของวจีสุจริตที่ทรงบำเพ็ญมิได้
ขาดสายตลอดโกฏิกัปนับไม่ถ้วน เมื่อจะทรงเปล่งพระสุรเสียง
อันไพเราะ ก็ตรัสถามว่า “ได้ยินว่าพวกท่านผู้เป็นอุบาสก ทําลาย
สรณะ ๓ เสีย แล้วถึงอัญญเดียรถีย์เป็นสรณะ จริงหรือ”
พวกสาวกอัญญเดียรถีย์เหล่านั้นไม่อาจปกปิดไว้ได้ พา
กันกราบทูลว่า “จริง พระเจ้าข้า” พระบรมศาสดาจึงตรัสว่า
“ดูก่อน อุบาสกทั้งหลาย ในโลกธาตุเบื้องล่างจดอเวจีมหานรก
เบื้องบนจรดภวัคคพรหม และไปตามขวางหาประมาณมิได้ ไม่มี
ใครที่ประเสริฐกว่าพระตถาคต บุคคลจะเป็นอุบาสกหรืออุบาสิกา
ก็ตาม ผู้ถึงพระรัตนตรัยอันประกอบด้วยอุดมคุณอย่างนี้ ชื่อว่า
จะเป็นผู้บังเกิดในนรกเป็นต้นย่อมไม่มี อนึ่งผู้พ้นจากการบังเกิด
ในอบายแล้ว ยังจะเกิดขึ้นในเทวโลกได้เสวยมหาสมบัติ
เพราะเหตุไร พวกท่านจึงพากันทำลายสรณะเห็นปานนี้ แล้วถึง
อัญญเดียรถีย์เป็นสรณะ กระทำกรรมอันไม่สมควรเลย”
แล้วพระองค์ก็ตรัสว่า “ชนเหล่าใดเหล่าหนึ่ง ได้ถึง
พระพุทธเจ้าเป็นสรณะ ได้ถึงพระธรรมเป็นสรณะ ถึงพระสงฆ์
เป็นสรณะ ชนเหล่านั้น จักไม่เข้าถึงอบายภูมิ ละร่างกายของ
มนุษย์นี้ไปแล้ว จักยังกายเทพให้บริบูรณ์ มนุษย์ทั้งหลายเป็น
อันมากถูกภัยคุกคาม ย่อมถึงภูเขาบ้าง ป่าบ้าง อาราม และ