ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประช
วิสาขามหาอุบาสิกา (มหาลดาปสาธน์)
๔๗๖
ไปสู่ปรโลก บุญและบาปนั้น ย่อมจะติดตามตัวเขาไป ประดุจ
เงาติดตามตนไป ฉะนั้น เพราะฉะนั้น บุคคลพึงบำเพ็ญบุญ
สะสมกรรมดีไว้เป็นสมบัติในปรโลก เพราะว่า บุญทั้งหลาย
ย่อมเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย”
การเวียนว่ายตายเกิดของสรรพสัตว์ทั้งหลาย ล้วนอยู่
ในกระแสแห่งกิเลส กรรม วิบาก กิเลสที่สั่งสมในขันธสันดาน
หุ้ม เคลือบ เอิบอาบ ซึมซาบ ปนเป็น บีบบังคับให้สรรพสัตว์
สร้างกรรม พอสร้างกรรมก็ต้องไปเสวยวิบาก พอเสวยวิบาก
ก็ได้รับทุกข์ทรมาน แล้วกิเลสก็บังคับให้สร้างกรรมอีก เวียนวน
อยู่อย่างนี้จึงเรียกว่า วัฏสงสาร เรามีชีวิตที่ยังไม่พ้นจากการ
บังคับบัญชาของกิเลสอาสวะของพญามาร จึงต้องเกี่ยวข้อง
กับกรรมในชีวิตประจำวันอยู่ตลอดเวลา การใช้ชีวิตที่คุ้มค่านั้น
เราต้องคํานึงถึงพระดำรัสของพระผู้มีพระภาคเจ้าว่าบุญเป็น
ที่พึ่งที่สําคัญในชีวิตของสรรพสัตว์ทั้งหลาย กว่าเราจะเข้าใจ
ตรงนี้ได้นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะจะต้องมีสัมมาทิฏฐิเป็นพื้นฐาน
ต้องเข้าใจเรื่องบาป บุญ คุณ โทษอย่างถ่องแท้
ผลของกรรมดีที่เราทํา ไม่ได้สูญหายไปไหน จะกลาย
เป็นสมบัติติดตามตัวเราไป ทั้งที่เป็นโลกิยทรัพย์และอริยทรัพย์
ดังนั้นเราไม่ควรมองข้ามการสร้างบารมี เหมือนนักสร้างบารมี
ในอดีต คือ ยอดมหาอุบาสิกาวิสาขา ผู้เป็นนักสร้างบารมี