ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะ ประชll
อนาถบิณฑิกเศรษฐี (ยอดกัลยาณมิตร)
๓๕๗
ต้นไม้ที่เป็นเจดีย์บ้าง ว่าเป็นสรณะ นั่นแลมิใช่สรณะอันเกษม
นั่นมิใช่สรณะอันอุดม เขาอาศัยสิ่งนั้นเป็นสรณะแล้ว ย่อมไม่พ้น
จากทุกข์ทั้งปวงได้ ส่วนผู้ใดถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม และ
พระสงฆ์ ว่าเป็นสรณะแล้ว เห็นอริยสัจ ๔ ด้วยปัญญาอันชอบ
นี้แลเป็นสรณะอันเกษม นี้เป็นสรณะอันอุดม เขาอาศัยสิ่งนี้แล้ว
ย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้”
พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมแล้วตรัสถามว่า “ดูก่อน
อุบาสกทั้งหลาย ชื่อว่าพุทธานุสติกัมมัฏฐาน ธัมมานุสติกัมมัฏ
ฐาน สังฆานุสติกัมมัฏฐาน ย่อมให้โสดาปัตติมรรค ย่อมให้
โสดาปัตติผล ย่อมให้สกทาคามิมรรค สกทาคามิผล ย่อมให้
อนาคามิมรรค อนาคามิผล ย่อมให้อรหัตตมรรค อรหัตตผล
พวกท่านได้ทำลายสรณะเห็นปานนี้ กระทำกรรมอันไม่สมควร
แล้ว”
พระผู้มีพระภาคเจ้าครั้นทรงให้โอวาทอุบาสกทั้งหลายแล้ว
ท่านเศรษฐีก็ลุกขึ้นจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า
กล่าวชมเชยแล้วประคองอัญชลีเหนือเศียรเกล้า กราบทูลอย่าง
นี้ว่า “บัดนี้ การที่พวกอุบาสกเหล่านี้ ทำลายสรณะอันสูงสุดแล้ว
ถือสรณะที่ผิดยึดถือเอาด้วยการคาดคะเน ยึดถือเอาอย่างผิดๆ
แล้วเกิดความเสื่อมเสียขึ้นนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์
อย่างนี้ ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าโปรดแสดงธรรมให้กระจ่างชัด