ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาชll
เมณฑกเศรษฐีผู้ใจบุญ (๖)
๔๓๒
ธรรมดาของสรรพสัตว์ที่เกิดมาในโลกนี้ จะคบหาสมาคม
หรือเข้าหากันได้ตามธาตุธรรมคือ มีจริตอัธยาศัย อนุสัย และ
อาสยะตรงกัน จริตคือความประพฤติ ที่เป็นไปทางกาย วาจา ใจ
มีทั้งสุจริต และทุจริต อัธยาศัยของหมู่สัตว์แต่ละประเภทก็ไม่
เหมือนกัน มีทั้งที่น้อมไปในทางที่ดี และไม่ดี อนุสัยคือตัวกิเลส
ที่นอนเนื่องอยู่ในขันธสันดานของสัตว์ ซึ่งติดมาข้ามภพข้ามชาติ
บางคนรู้ทันก็หมั่นขจัดข้อบกพร่องออกไป แต่คนที่ไม่รู้ก็พอกพูน
ให้หนาแน่นขึ้นไปเรื่อยๆ แล้วสิ่งที่ทั้งดี และไม่ดีที่ทําลงไป ก็ติด
อยู่ในกลางกายของบุคคลนั้น ไม่ได้สูญหายไปไหน
อาสยะ คือความประสงค์ที่คล้ายคลึงกัน บางคนมี
อัธยาศัยในทางกามคุณ แต่บางคนก็มีฉันทะในทางเนกขัมมะคือ
อยากออกจากกาม อาสยะจึงเปรียบเสมือนแรงบันดาลใจ
ที่คอยกระตุ้นเตือนอยู่ภายในใจ ให้อยากทำความดีหรือความชั่ว
บางท่านก็มีธุลีคือ กิเลสในดวงตาเบาบาง บางท่านก็มีธุลีกิเลส
หนา แต่ก็ปรารถนาที่จะทำตนให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ จึงจํา
ต้องหมั่นปรารภความเพียรให้มากๆ
เพราะฉะนั้น การคบหาสมาคมกันของหมู่สัตว์ กระทั่ง
ถึงมวลมนุษยชาติ ทุกชาติ ทุกภาษา ทุกศาสนา ทุกเผ่าพันธุ์
ตั้งอยู่บนพื้นฐานของธาตุธรรมที่ใกล้เคียงกัน ใครมีบุญมากก็
อยู่ในแวดวงของผู้มีบุญ ถ้าเราสังเกตดูจะพบว่าเศรษฐีเข้ากับ