ข้อความต้นฉบับในหน้า
ไม่ชำนาญในการเพาะปลูก การทำกสิกรรมจึงมีเพียงเล็กน้อยและค่อนข้างจำกัด แต่มีหัวใน
การต่อสู้รุกรบอยู่เสมอ และยกย่องชายผู้เป็นนักรบ
การอพยพเคลื่อนย้ายของชาวอารยัน แบ่งออกเป็นสองสาย คือสายหนึ่งมุ่งไปทาง
ตะวันตกตอนใต้ ซึ่งต่อมากลายเป็นบรรพบุรุษของชาวยุโรป และอีกสายหนึ่งอพยพไปทาง
ทิศตะวันออกเฉียงใต้ จากนั้นจึงเข้าสู่เปอร์เซียและอินเดียตามที่กล่าวมาข้างต้น ทั้งนี้พวก
อารยันที่เข้ามาใหม่นั้นค่อยๆ ทยอยเข้ามาในอินเดียเป็นระลอกๆ อยู่นานเป็นร้อยปี จนกระทั่ง
หยุดการอพยพเมื่อราว 800 ปีก่อนพุทธกาล
หลังจากที่ชาวอารยันตั้งหลักแหล่งในอินเดียแล้ว ก็มิได้สร้างอารยธรรมเมืองซ้อนทับ
อารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุที่ถูกทำลายลงไปแต่อย่างใด กลับยึดป่า แม่น้ำและทะเลเป็นของตัวเอง
เลี้ยงชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์โดยไม่จำเป็นต้องย้ายถิ่นอีกต่อไป จากนั้นก็เริ่มต้นตั้งหลักปักฐาน
สร้างสังคมที่ผสมผสานความเป็นอารยันของพวกตนและสังคมเกษตรกรรมของชาวพื้นถิ่นเดิม
คือพวกทราวิฑ รวมทั้งผสมกลมกลืนเอาวัฒนธรรมดั้งเดิมของพวกทราวิฑไว้ และสร้าง
อารยธรรมใหม่ของตนขึ้นอย่างแข็งแกร่งสืบต่อมา ในที่สุดจึงเกิดเป็นอารยธรรม 3 สาย คือ
1) อารยธรรมดราวิเดียนแท้
2) อารยธรรมอารยัน
3) อารยธรรมผสมระหว่างดราวิเดียนกับอารยัน
นักประวัติศาสตร์ศาสนาชี้ว่า อารยธรรมที่เจริญรุ่งเรืองและคงอยู่ต่อมาก็คือ
อารยธรรมสายที่ 3 ที่มีการผสมผสานกันระหว่างอารยธรรมดราวิเวียนแท้กับอารยธรรมใหม่
ในอัตราส่วนที่เหมาะสม
2.2 กำเนิดและพัฒนาการทางความเชื่อของศาสนาพราหมณ์
ในประวัติศาสตร์ของอินเดีย ถือว่าศาสนาพราหมณ์เป็นแหล่งกำเนิดลัทธิประเพณี
ของตน วัฒนธรรมพราหมณ์รวมทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีและปรัชญาพราหมณ์นั้น เชื่อว่า
2
- หลักฐานทางนิรุกติศาสตร์สรุปว่า บรรดาผู้คนในทวีปยุโรป และในอินเดีย ล้วนมีบรรพบุรุษเป็นพวกอารยัน
เหมือนกัน เพราะภาษาที่ใช้ต่างก็อยู่ในภาษาตระกูลอินโด-ยูโรเปียนเหมือนกัน ซึ่งจะถือว่าเป็นภาษาของ
พวกอารยันดั้งเดิมก็ว่าได้
พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, พุทธปรัชญา สาระและพัฒนาการ, 2544 หน้า 2
22 DOU ประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา