ข้อความต้นฉบับในหน้า
3.4 การบังเกิดขึ้นของพระพุทธศาสนากับการเปลี่ยนแปลงความเชื่อและ
วัฒนธรรมในสังคมอินเดีย
การบังเกิดขึ้นของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นเหตุการณ์อันยิ่งใหญ่ ซึ่งเปลี่ยนแปลง
ประวัติศาสตร์ ความเชื่อ และวัฒนธรรมของชาวอินเดียในยุคนั้นอย่างใหญ่หลวงจากที่กล่าวแล้ว
ในบทที่ 2 ว่า สังคมอินเดียก่อนยุคพุทธกาลและในยุคพุทธกาลตกอยู่ในอิทธิพลของศาสนา
พราหมณ์ ซึ่งหยั่งรากฝังลึกลงในสังคมและสืบทอดกันมากหลายพันปี โดยเฉพาะการแบ่งคน
ออกเป็น 4 วรรณะนั้น เป็นวัฒนธรรมที่เหนียวแน่นมาก พราหมณ์ทั้งหลายเชื่อว่า วรรณะ
พราหมณ์เท่านั้นเป็นวรรณะที่ประเสริฐที่สุด วรรณะอื่นเลวทรามและทุกๆ คนจะต้องเคารพ
พราหมณ์ ดังที่ปรากฏในอัคคัญสูตร พราหมณ์ทั้งหลายได้ด่าบริภาษวาเสฏฐะและภารทวาชะ
ผู้ออกจากตระกูลพราหมณ์ไปบวชเป็นสามเณรในพระพุทธศาสนาว่า
“พราหมณ์เท่านั้นเป็นวรรณะประเสริฐที่สุด วรรณะอื่นเลวทราม พราหมณ์เท่านั้น
เป็นวรรณะขาว วรรณะอื่นดำ พวกพราหมณ์ทั้งหลายเท่านั้นบริสุทธิ์ คนที่ไม่ใช่พราหมณ์หา
บริสุทธิ์ไม่ พวกพราหมณ์ทั้งหลายเป็นบุตรเกิดจากอุระ เกิดจากปากของพระพรหม พวกท่าน
มาละเสียจากวรรณะที่ประเสริฐที่สุด เข้าไปอยู่ในวรรณะที่เลวทรามคือพวกสมณะโล้น เป็น
พวกคหบดี เป็นพวกดำ เกิดจากเท้าของพระพรหม การที่พวกท่านมาละเสียจากวรรณะ
ประเสริฐสุดเช่นนี้ ไม่เป็นการดี ไม่เป็นการสมควรเลย”
แม้แต่ผู้ที่เกิดในวรรณะกษัตริย์ก็ยังต้องเคารพพราหมณ์ เช่น เมื่อครั้งที่พระเจ้า
สุทโธทนะทรงประสงค์จะขนานพระนามพระโพธิสัตว์ พระประยูรญาติทั้งหลายได้เชิญ
พราหมณ์มาในวันนั้นถึง 108 ท่าน โดยคัดเลือกเหลือ 8 ท่านเพื่อให้ทำหน้าที่ขนานพระนาม
พระโพธิสัตว์ เมื่อพระโพธิสัตว์ออกบวชและได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว ในเวลาที่
พระพุทธองค์เสด็จจาริกไปเผยแผ่นั้น มีปรากฏอยู่บ่อยครั้งที่ได้รับการต่อต้าน ถูกลบหลู่ดูหมิ่น
เช่น ในอุทปานสูตร “สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจาริกไปในมัลลชนบทพร้อมด้วยภิกษุ
สงฆ์หมู่ใหญ่ เสด็จถึงพราหมณคามหรือหมู่บ้านพราหมณ์ชื่อถนะของมัลลกษัตริย์ ครั้งนั้น
พราหมณ์และคฤหบดีทั้งหลายเอาหญ้าและแกลบถมบ่อน้ำจนเต็มถึงปากบ่อ ด้วยตั้งใจว่า
สมณะโล้นทั้งหลายอย่าได้ดื่มน้ำ
1 ทีฆนิกาย ปาฏิกวรรค เล่ม 15 ข้อ 51 หน้า 146
* อังคุตตรนิกาย เอกนิบาต เล่ม 32 หน้า 253
* ขุททกนิกาย อุทาน เล่ม 44 ข้อ 155 หน้า 692
56 DOU
ประวัติ ศ า ส ต ร์ พ ร ะ พุ ท ธ ศ า ส น า