ประวัติพระถังซัมจั๋งและการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในจีน GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 134
หน้าที่ 134 / 249

สรุปเนื้อหา

เนื้อหานี้กล่าวถึงการทำลายวัดและการออกบวชของพระภิกษุในสมัยพระเจ้าที่จง รวมถึงการฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในสมัยราชวงศ์ถัง โดยมีพระถังซัมจั๋งเป็นนักปราชญ์ที่สำคัญที่เดินทางไปอินเดียเพื่อตามหาความรู้ที่แท้จริง ก่อนที่จะไปเหล่านักบวชหลายร้อยชีวิตต้องเผชิญกับอันตรายมากมายระหว่างทาง. พระถังซัมจั๋งถือเป็นบุคคลสำคัญที่ช่วยให้พระพุทธศาสนาในจีนเจริญรุ่งเรืองขึ้นอีกครั้ง โดยท่านได้ศึกษาพระธรรมและสร้างวัดขึ้น ซึ่งมีผลกระทบต่อวงการพุทธศาสนาในประเทศ.

หัวข้อประเด็น

-ประวัติพระถังซัมจั๋ง
-การฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในจีน
-ราชวงศ์ถังและการพัฒนาศาสนา
-การเดินทางของพระถังซัมจั๋งไปอินเดีย
-ผลกระทบและความสำคัญของพระถังซัมจั๋งต่อพุทธศาสนา

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระเจ้าจงไม่พอพระทัย ทรงสั่งทำลายวัดกว่า 4,600 วัด ทำลายเจดีย์และวิหารกว่า 40,000 แห่ง บังคับให้ภิกษุและภิกษุณีสึกมากกว่า 260,000 รูป สมัยพระเจ้าที่จงทรงบังคับให้ภิกษุ ครองจีวรแบบเต๋า บางยุคหน่วยงานราชการขายบัตรอุปสมบท คนมีศรัทธาแต่ไม่มีเงินก็ไม่ได้บวช พระภิกษุต้องเสียภาษี ยกเว้นผู้พิการหรือมีอายุ 60 ปี เช่น รัชกาลพระเจ้ายินจงในปี พ.ศ. 1578 ราชวงศ์ถังยุคทองของพุทธจักร หลังจากที่พระพุทธศาสนาในแคว้นจิ๋วถูกทำลายไป ต่อมาได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยราชวงศ์ซุย (พ.ศ. 1132-1161) และได้รับการพัฒนาให้เจริญ รุ่งเรืองสูงสุดในสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) โดยเฉพาะยุคถังไท่จงฮ่องเต้ สมัยนี้มี ความเจริญทั้งฝ่ายอาณาจักรและพุทธจักร มีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง มีการแปลพระสูตรจาก ภาษาบาลีเป็นภาษาจีนมากมาย และที่สำคัญมีนักปราชญ์คนสำคัญเกิดขึ้นคือ พระถังซัมจั๋ง และ สมณะอจง พระถังซัมจั๋ง เป็นนักปราชญ์ชาวพุทธคนสำคัญ คำว่า ถังซัมจั๋ง แปลว่า ผู้ทรง พระไตรปิฎกแห่งราชวงศ์ถัง” ท่านถือกำเนิดในตระกูลเฉิน ในปี พ.ศ. 1143 ณ เมืองโลยาง ปัจจุบัน อยู่ในมณฑลเหอหนัน มีนามเดิมว่า เฉินฮุย เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุได้ 13 ปี มีฉายาว่า ฮวนฉาง หรือหยวนฉ่าง หรือเงี่ยนจัง เมื่อบวชแล้วก็ตั้งใจศึกษาพระพุทธศาสนาจนแตกฉาน แต่เมื่อศึกษาไปมากเข้าท่านเกิดความสงสัยและขัดแย้งในใจ คัมภีร์ประกอบการค้นคว้าก็มีน้อย ท่านจึงมีความคิดที่จะไปศึกษาให้ถึงต้นแหล่งคือ ประเทศอินเดีย ในปี พ.ศ.1173 ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทาง เส้นทางไปนั้นอันตรายมาก ต้องผ่าน ทะเลทรายร้อนระอุและเทือกเขาอันหนาวเหน็บ ก่อนหน้านั้นมีภิกษุนับร้อย ๆ รูปเดินทางไปแล้ว แต่ส่วนใหญ่สิ้นชีวิตในระหว่างทาง กวีจีนจึงเขียนโคลงไว้ว่า “ชื่อเจียเซ่งแปะ กุยบ่อจิ๊บ เอ๋เจีย อังใจ จุ้ยเจี่ยง” แปลว่า ในยามไปสิ มีจำนวนนับร้อย ครั้นยามกลับเล่าก็เหลือไม่ถึงสิบ บุคคลผู้อยู่ภายหลังไฉนเลยจะทราบถึงความยากลำบากของผู้ที่ไปก่อน ก่อนเดินทาง มีผู้หวังดีเตือนถึงอันตรายดังกล่าว แต่พระถังซัมจั๋งยืนยันว่า อาตมา ตั้งใจจะไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธ์และศึกษาธรรม อาตมาจะไม่เสียใจเลยหากต้องตายระหว่าง เดินทาง ในที่สุดท่านจึงออกเดินทาง เส้นทางที่ใช้ต้องผ่านทะเลทรายตะกลามากัน (Taklamakan) ซึ่งแปลว่า เข้าได้แต่ออกไม่ได้ เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่อันตรายที่สุดในโลก ชาวจีนเรียกว่า ทะเลทรายมรณะ กระบอกน้ำของท่านตกลงบนพื้นระหว่างเดินทาง น้ำที่มีอยู่ก็ 1 สิริวัฒน์ คำวันสา, พุทธศาสนาในอินเดีย, 2545 หน้า 183-184 * เสถียร โพธินันทะ, ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ฉบับมุขปาฐะ เล่ม 1, 2539 หน้า 205 พระพุ ท ธ ศ า ส น า ในเอเชีย DOU 125
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More