ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเจ้าจงไม่พอพระทัย ทรงสั่งทำลายวัดกว่า 4,600 วัด ทำลายเจดีย์และวิหารกว่า 40,000
แห่ง บังคับให้ภิกษุและภิกษุณีสึกมากกว่า 260,000 รูป สมัยพระเจ้าที่จงทรงบังคับให้ภิกษุ
ครองจีวรแบบเต๋า บางยุคหน่วยงานราชการขายบัตรอุปสมบท คนมีศรัทธาแต่ไม่มีเงินก็ไม่ได้บวช
พระภิกษุต้องเสียภาษี ยกเว้นผู้พิการหรือมีอายุ 60 ปี เช่น รัชกาลพระเจ้ายินจงในปี พ.ศ. 1578
ราชวงศ์ถังยุคทองของพุทธจักร หลังจากที่พระพุทธศาสนาในแคว้นจิ๋วถูกทำลายไป
ต่อมาได้รับการฟื้นฟูขึ้นใหม่ในสมัยราชวงศ์ซุย (พ.ศ. 1132-1161) และได้รับการพัฒนาให้เจริญ
รุ่งเรืองสูงสุดในสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) โดยเฉพาะยุคถังไท่จงฮ่องเต้ สมัยนี้มี
ความเจริญทั้งฝ่ายอาณาจักรและพุทธจักร มีการสร้างวัดขึ้นหลายแห่ง มีการแปลพระสูตรจาก
ภาษาบาลีเป็นภาษาจีนมากมาย และที่สำคัญมีนักปราชญ์คนสำคัญเกิดขึ้นคือ พระถังซัมจั๋ง และ
สมณะอจง
พระถังซัมจั๋ง เป็นนักปราชญ์ชาวพุทธคนสำคัญ คำว่า ถังซัมจั๋ง แปลว่า ผู้ทรง
พระไตรปิฎกแห่งราชวงศ์ถัง” ท่านถือกำเนิดในตระกูลเฉิน ในปี พ.ศ. 1143 ณ เมืองโลยาง ปัจจุบัน
อยู่ในมณฑลเหอหนัน มีนามเดิมว่า เฉินฮุย เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์เมื่ออายุได้ 13 ปี มีฉายาว่า
ฮวนฉาง หรือหยวนฉ่าง หรือเงี่ยนจัง เมื่อบวชแล้วก็ตั้งใจศึกษาพระพุทธศาสนาจนแตกฉาน
แต่เมื่อศึกษาไปมากเข้าท่านเกิดความสงสัยและขัดแย้งในใจ คัมภีร์ประกอบการค้นคว้าก็มีน้อย
ท่านจึงมีความคิดที่จะไปศึกษาให้ถึงต้นแหล่งคือ ประเทศอินเดีย
ในปี พ.ศ.1173 ท่านจึงตัดสินใจออกเดินทาง เส้นทางไปนั้นอันตรายมาก ต้องผ่าน
ทะเลทรายร้อนระอุและเทือกเขาอันหนาวเหน็บ ก่อนหน้านั้นมีภิกษุนับร้อย ๆ รูปเดินทางไปแล้ว
แต่ส่วนใหญ่สิ้นชีวิตในระหว่างทาง กวีจีนจึงเขียนโคลงไว้ว่า “ชื่อเจียเซ่งแปะ กุยบ่อจิ๊บ เอ๋เจีย
อังใจ จุ้ยเจี่ยง” แปลว่า ในยามไปสิ มีจำนวนนับร้อย ครั้นยามกลับเล่าก็เหลือไม่ถึงสิบ
บุคคลผู้อยู่ภายหลังไฉนเลยจะทราบถึงความยากลำบากของผู้ที่ไปก่อน
ก่อนเดินทาง มีผู้หวังดีเตือนถึงอันตรายดังกล่าว แต่พระถังซัมจั๋งยืนยันว่า อาตมา
ตั้งใจจะไปเยือนดินแดนศักดิ์สิทธ์และศึกษาธรรม อาตมาจะไม่เสียใจเลยหากต้องตายระหว่าง
เดินทาง ในที่สุดท่านจึงออกเดินทาง เส้นทางที่ใช้ต้องผ่านทะเลทรายตะกลามากัน
(Taklamakan) ซึ่งแปลว่า เข้าได้แต่ออกไม่ได้ เป็นหนึ่งในทะเลทรายที่อันตรายที่สุดในโลก
ชาวจีนเรียกว่า ทะเลทรายมรณะ กระบอกน้ำของท่านตกลงบนพื้นระหว่างเดินทาง น้ำที่มีอยู่ก็
1 สิริวัฒน์ คำวันสา, พุทธศาสนาในอินเดีย, 2545 หน้า 183-184
* เสถียร โพธินันทะ, ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ฉบับมุขปาฐะ เล่ม 1, 2539 หน้า 205
พระพุ ท ธ ศ า ส น า ในเอเชีย
DOU 125