ข้อความต้นฉบับในหน้า
และได้สถาปนาพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์ทรงพระนามว่า พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ เป็นปฐมกษัตริย์
ของสยามประเทศ ทางด้านศาสนานั้นยุคนี้มีทั้งศาสนาพราหมณ์ พระพุทธศาสนามหายาน
และเถรวาทซึ่งตกทอดมาจากอดีต แต่พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ทรงเคารพนับถือนิกายเถรวาท
มากที่สุด ต่อมาประมาณปี พ.ศ.1822 พ่อขุนรามคำแหงเสด็จขึ้นครองราชย์ เป็นกษัตริย์องค์
ที่ 3 แห่งกรุงสุโขทัย ยุคนี้มีความเจริญรุ่งเรืองมากทั้งอาณาจักรและพุทธจักร
พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ทรงอาราธนาพระสงฆ์จากนครศรีธรรมราชซึ่งไปร่ำเรียน
มาจากลังกาให้มาเผยแผ่ที่กรุงสุโขทัย ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมมาก คณะสงฆ์สมัยนั้นแบ่งเป็น
2 คณะ คือ คณะคามวาสี คือฝ่ายคันถธุระหรือศึกษาด้านปริยัติ และคณะอรัญวาสี คือ ฝ่าย
วิปัสสนาธุระหรือฝ่ายที่เน้นบำเพ็ญสมาธิภาวนา ชาวสุโขทัยมีความศรัทธาในพระพุทธศาสนา
มาก ดังข้อความในศิลาจารึกหลักที่ 1 ด้านที่ 2 ตอนหนึ่งว่า
“...คนในสุโขทัยนี้มักทาน มักทรงศีล มักโอยทาน พ่อขุนรามคำแหงเจ้าเมืองสุโขทัย
ทั้งชาวแม่ ชาวเจ้า ช่วยนิ้วท่วยนาง ลูกเจ้าลูกขุนทั้งสิ้นทั้งหลาย ทั้งผู้หญิงผู้ชาย ฝูงท่วยมี
ศรัทธาในพระพุทธศาสนา ทรงศีลเมื่อพรรษาทุกคนเมื่อออกพรรษากรานกฐินเดือนหนึ่งจึงแล้ว
เมื่อกรานกฐินมีพนมเบี้ย พนมหมาก มีพนมดอกไม้ มีหมอนนั่งหมอนนอน บริพารกฐิน
โอยทานแลญิบล้าน ไปสวดญัตติกฐินถึงอรัญญิกพ้น...”
51
พระพุทธศาสนายุคสุโขทัยนั้นรุ่งเรืองถึงขีดสุดในสมัยพระนัดดา (หลาน) ของ
พ่อขุนรามคำแหงคือ พระมหาธรรมราชาลิไท เสด็จขึ้นครองราชย์ประมาณปี พ.ศ. 1890 ทรง
เป็นกษัตริย์องค์แรกที่รอบรู้พระไตรปิฎกและภาษามคธ ทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีพระพุทธ
ศาสนา เรื่องไตรภูมิพระร่วง ซึ่งเป็นวรรณคดีชิ้นแรกของไทยในปี พ.ศ.1888 โดยอ้างอิงจาก
คัมภีร์ต่าง ๆ ถึง 34 เรื่อง ทรงสร้างเจดีย์ที่นครชุม (เมืองกำแพงเพชร) สร้างพระพุทธชินสีห์
พระพุทธชินราชที่พิษณุโลก และในปี พ.ศ. 1905 พระองค์เสด็จออกผนวช นอกจากนี้ศิลาจารึก
หลักที่ 5 กล่าวไว้ว่าพระเจ้าลิไททรงปรารถนาพุทธภูมิด้วยดังข้อความว่า “จุงเป็นพระพุทธ
จุงจักเอาฝูงสัตว์ทั้งหลาย (ข้าม)สงสารทุกข์นี้” เมื่อกษัตริย์ทรงมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา
เช่นนี้จึงเป็นเหตุให้ประชาชนถือเป็นแบบอย่างและเป็นเหตุให้พระพุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองมาก
อาณาจักรล้านนา ได้รับการสถาปนาขึ้นในปี พ.ศ. 1840 โดยพระยามังราย ทรงเป็น
พระสหายสามเส้าระหว่างพ่อขุนรามคำแหงกับพระยางำเมืองแห่งเมืองพะเยา ทรงสร้างเมือง
1-2 อ้างใน สิริวัฒน์ คำวันสา, ประวัติพระพุทธศาสนาในประเทศไทย, 2542 หน้า 29-33
พระพุ ท ธ ศ า ส น า ในเอเชีย
DOU 149