ข้อความต้นฉบับในหน้า
สร้างปรัชญาใหม่ๆ วันดีคืนดีก็ตั้งปัญหาถามพวกพราหมณ์ว่า “อะไรคือปฐมเหตุของโลกและชีวิต
พรหมคืออะไร เราเกิดมาจากไหน เราอยู่ได้ด้วยอะไร เราถูกสร้างขึ้นมาบนพื้นฐานแห่งอะไร”
เมื่อต่างคนต่างพยายามใช้ปัญญาของตนขบคิดหาเหตุผล จึงพบข้อสรุปบางประการที่
น่าสนใจ ซึ่งได้รวบรวมขึ้นมาใหม่เป็นอีกคัมภีร์หนึ่ง ให้ชื่อว่า “คัมภีร์อุปนิษัท” (Upanishads)
ซึ่งเป็นบทสรุปของคัมภีร์พระเวท ถือเป็นตัวแทนพัฒนาการด้านความคิดตามคัมภีร์พระเวท
ขั้นสุดท้าย และเป็นลักษณะสุดท้ายของศาสนาพราหมณ์ ดังนั้นคัมภีร์อุปนิษัทจึงเป็นอวสาน
ของพระเวท และสำนักปรัชญาลัทธิฮินดูในสมัยต่อมา ก็ล้วนวางหลักคำสอนของตนไว้กับคัมภีร์
อุปนิษัทที่ขยายความออกไปที่เรียกว่า “เวทานตะ” (Vedanta) นั่นเอง
คัมภีร์อุปนิษัทเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อใดนั้นยังหาข้อสรุปได้ยา ทั้งนี้เพราะคัมภีร์อุปนิษัท
มีอยู่นับร้อยเล่ม และแต่ละเล่มก็ไม่ตรงกันหรือที่ขัดแย้งกันเองก็มี นักปราชญ์ฝ่ายฮินดูกล่าวว่า
อุปนิษัทต้องเกิดก่อนพุทธศาสนาอย่างแน่นอน ส่วนบางท่านมีความเห็นแย้งกันว่าคัมภีร์
อุปนิษัทอาจเกิดขึ้นหลังพุทธกาล คือเป็นผลงานของพวกฮินดูซึ่งหาทางจะดำรงไว้ซึ่งศาสนา
พราหมณ์ในยุคที่พุทธศาสนาและศาสนาเชนกำลังรุ่งเรือง
คำสอนในคัมภีร์อุปนิษัทเป็นปรัชญาที่ลึกซึ้งและเป็นเรื่องยากที่จะเข้าใจได้ ที่เห็นได้
ชัดคือคำสอนเรื่องความจริงสูงสุดที่เรียกว่า “พรหมัน” (Brahman) ซึ่งเป็นคำสอนใหม่ที่ไม่มี
ปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระเวท
คัมภีร์อุปนิษัทกล่าวว่า แม้พระเวทจะถือกันว่าเป็นพระวจนะของพระผู้เป็นเจ้าโดยตรง
(ศรุติ) แต่ที่แท้จริงก็เป็นสิ่งที่เกิดมาจากพรหมัน ออกมากับลมหายใจของพรหมันนั่นเอง ดังนั้น
พรหมันในคัมภีร์อุปนิษัทจึงมีความสำคัญเหนือกว่าพระเวทมากนักดังจะเห็นได้จากประโยคที่ว่า
“ผู้ที่รู้จักพระเวทที่ดีที่สุด ก็ยังไม่อาจหลุดพ้นจากทุกข์ได้ ถ้าเขายังไม่รู้จักพรหมัน ตรงข้ามถ้า
รู้จักพรหมันแต่ไม่รู้พระเวทเลย กลับสามารถหลุดพ้นจากทุกข์ได้”
6
6
1 คำว่า อุปนิษัท มาจาก อุป (ใกล้) + นิ (ตั้งใจ) + ษท (นั่งลง) หมายความว่า นั่งเข้ามาตีวงใกล้ๆ หรือเข้ามานั่ง
ฟังใกล้ๆ อย่างตั้งใจรับฟังคำสอน (สัจธรรม) จากครูบาอาจารย์ เพื่อบรรเทาความสงสัยและทำลายอวิชชาในตัว
ศิษย์ให้สิ้นไป นั่นแสดงว่าคัมภีร์อุปนิษัทเป็นส่วนที่สำคัญที่สุด เป็นบทเรียนอันเป็นส่วนลึกในก้นบึงที่
ครูบาอาจารย์จะถ่ายทอดแก่ศิษย์ จนสิ้นความสงสัย
* คำว่า เวทานตะ มาจาก เวท+อันตะ หมายถึง ส่วนอันเป็นที่สุดแห่งพระเวท
3 พระมหาสมจินต์ สมมาปุญฺโญ, พุทธปรัชญา สาระและพัฒนาการ, 2544 หน้า 6.
สิริวัฒน์ คำวันสา, พุทธศาสนาในอินเดีย, 2534 หน้า 18.
* คำว่า “พรหมัน” ยังมีชื่อเรียกอีกหลายชื่อ อาทิ ปรมาตมัน อาตมัน ปรมพรหม หรืออันติมสัจจะ
สุมาลี มหณรงค์ชัย, ฮินดู-พุทธ จุดยืนที่แตกต่าง, 2546 หน้า 51.
32 DOU ประวัติศาสตร์ พระพุทธศาสนา