สาเหตุการเสื่อมของพระพุทธศาสนาในอินเดีย GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 111
หน้าที่ 111 / 249

สรุปเนื้อหา

พระพุทธศาสนาเกิดขึ้นในอินเดียและเคยเจริญรุ่งเรือง แต่เสื่อมลงเนื่องจากสาเหตุภายในที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของพระภิกษุสงฆ์ที่รับผิดชอบในการเผยแผ่และปฏิบัติธรรม โดยเฉพาะการลดจำนวนพระอรหันต์และการศึกษาเพียงด้านปริยัติธรรม ส่งผลให้การสนับสนุนจากสังคมลดน้อยลง นอกจากนี้ความเสื่อมยังเกิดจากการที่ผู้บรรลุธรรมโน้มเอียงไปในทางปลีกตัว ไม่สนใจการร่วมกิจกรรมสังคม เช่นนี้ทำให้ความเชื่อมั่นในศาสนาลดน้อยลง และส่งผลให้มีการขาดแคลนผู้นำทางศาสนาที่แท้จริง ดังนั้น ศาสนาจึงเริ่มเสื่อมลงในอินเดียมากขึ้นจนแทบไม่มีชาวพุทธเหลืออยู่

หัวข้อประเด็น

-สาเหตุการเสื่อมพระพุทธศาสนา
-บทบาทของพระภิกษุสงฆ์
-การศึกษาและการปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

4.3.3 สาเหตุที่ทำให้พระพุทธศาสนาเสื่อมจากอินเดีย ทั้งที่พระพุทธศาสนาถือกำเนิดในประเทศอินเดีย แต่ต่อมาในขณะที่พระพุทธศาสนา แผ่ขยายและเจริญรุ่งเรืองไปในดินแดนต่าง ๆ ทั่วโลก พระพุทธศาสนาในอินเดียเองกลับเสื่อมลง จนในยุคหนึ่งกล่าวได้ว่าแทบไม่มีชาวพุทธหลงเหลืออยู่เลย ที่เป็นเช่นนี้น่าจะมาจาก 2 สาเหตุ หลักดังต่อไปนี้ 1. สาเหตุภายใน พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาซึ่งมีพระภิกษุสงฆ์เป็นผู้นำ โดยมีวัดเป็นศูนย์กลาง ในแง่ การปฏิบัติเพื่อมุ่งสู่นิพพานนั้น พระภิกษุสงฆ์คือผู้ที่สละโลก ตั้งใจปฏิบัติธรรมขัดเกลากิเลส ถือเป็นแบบอย่างของชาวพุทธโดยทั่วไป และในแง่การเผยแผ่ศาสนา พระภิกษุสงฆ์ก็อยู่ใน ฐานะของครูผู้สอน โดยสาธุชนทั่วไปเป็นผู้รับฟังคำสอนแล้วนำไปปฏิบัติ และทำบุญให้การ สนับสนุนในการดำรงชีพและการปฏิบัติศาสนกิจของพระภิกษุสงฆ์ ในระยะแรกพระภิกษุสงฆ์ที่บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มีอยู่เป็นจำนวนมาก ปฏิบัติ ตนเป็นผู้นำ เป็นแบบอย่างแก่พระภิกษุสงฆ์อื่นในการเผยแผ่พระศาสนา พระภิกษุสงฆ์ ส่วนใหญ่ต่างมีความศรัทธาในพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างแน่นแฟ้น เป้าหมายการบวชใน สมัยนั้นคือบวชเพื่อมุ่งพระนิพพานกันจริง ๆ ให้ความสำคัญทั้งการศึกษาพระปริยัติธรรมและ การปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป นอกจากนี้ยังทำหน้าที่เผยแผ่สั่งสอนประชาชนให้ปฏิบัติตามต่อไป พระพุทธศาสนาจึงเจริญรุ่งเรืองขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อมาผู้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์มีจำนวนน้อยลง ในหมู่พระภิกษุสงฆ์ก็มีทั้งผู้ที่มี ใจรักมีความเชี่ยวชาญทางด้านพระปริยัติธรรมและผู้ที่เชี่ยวชาญในด้านธรรมปฏิบัติ แต่เนื่องจาก การศึกษาพระปริยัติธรรมเป็นสิ่งที่สามารถวัดความรู้ได้ สามารถจัดการศึกษาเป็นระบบและ ให้วุฒิการศึกษาได้ ในขณะที่ธรรมปฏิบัติเป็นสิ่งที่รู้เฉพาะตน เป็นของละเอียด วัดได้ยาก และ เนื่องจากพระภิกษุสงฆ์ผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมปฏิบัติ มักมีใจโน้มเอียงไปในทางแสวงหาความ สงบสงัด มักไม่ชอบการคลุกคลีด้วยหมู่คณะ เมื่อเป็นเช่นนี้ หลังจากเวลาผ่านไป พระภิกษุสงฆ์ผู้มีความเชี่ยวชาญด้านพระปริยัติธรรมจึงขึ้นมาเป็นผู้บริหารคณะสงฆ์ไปโดย ปริยาย Kitagawa, Joseph M. Buddhism and Social Change: A Historical Perspective, 1980 p. 89 102 DOU ประวัติศาสตร์ พระพุทธ ศาสนา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More