ข้อความต้นฉบับในหน้า
เกิดจากการผสมผสานวัฒนธรรมอารยันเข้ากับวัฒนธรรมทราวิฑที่สูงกว่า การผสมผสานนี้
เกิดขึ้นเป็นระยะๆ ตามการบุกรุกของพวกอารยัน ดังจะกล่าวต่อไปนี้
2.2.1 ยุคพระเวท (Vedic Period) ประมาณ 800 – 300 ปี ก่อนพุทธศักราช
ที่มาของการแบ่งวรรณะในระบบสังคมดั้งเดิม
เมื่อชาวอารยันเข้ามาสู่อินเดียแล้ว ก็ได้มาตั้งถิ่นฐานอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ
บริเวณเหนือแม่น้ำสินธุขึ้นไป ชาวอารยันนั้นไม่ใช่พวกป่าเถื่อน แต่จัดว่ามีวัฒนธรรมในระดับ
หนึ่งแล้ว แม้ความเจริญยังไม่ถึงขนาดสามารถสร้างบ้านสร้างเมือง และยังไม่มีการรวมตัวกัน
ภายใต้ระบอบกษัตริย์เป็นใหญ่เหมือนอย่างพวกทราวิฑที่เป็นเจ้าของอารยธรรมลุ่มแม่น้ำสินธุ
แต่ถึงกระนั้นก็มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มและปกครองกันในระดับเผ่า (tribe) โดยมีหัวหน้า
ควบคุมดูแลเรียกว่าราชา (raja) และมักสืบต่อกันตามตระกูล แต่ราชาของเผ่าอารยันมิใช่
กษัตริย์ที่มีอำนาจสิทธิ์ขาด เพราะอำนาจการปกครองส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับสภาของเผ่า
ก่อนที่พวกอารยันจะเข้ามาในอินเดีย พวกอารยันคงมีการแบ่งระดับชั้นของคนในเผ่า
ด้วยกันเองอยู่แล้ว อย่างน้อยที่สุดก็ระหว่างคนชั้นสูงที่เป็นผู้ปกครองกับคนธรรมดาสามัญซึ่งอยู่
ภายใต้การปกครอง และที่ขาดมิได้คือกลุ่มนักบวชที่ทำหน้าที่ประกอบพิธีกรรมบูชา เพราะชาว
อารยันนับถือธรรมชาติบูชาเทพเจ้าลมฟ้าอากาศมากมาย
ครั้นพวกอารยันมาถึงอินเดียแล้ว พบว่าคนพื้นเมืองมีสีผิวคล้ำกว่าพวกตนมาก จึง
หวั่นเกรงว่าจะมีการผสมปนเปกันจนแยกสายเลือดไม่ออก จึงเกิดการเหยียดสีผิวขึ้น โดยเฉพาะ
การที่ชาวอารยันไปสมสู่กับคนต่างเผ่า เท่ากับเป็นการลดเกียรติภูมิของชาวอารยันอย่างยิ่ง
จากปัญหาทางเชื้อชาติและการปฏิบัติต่อกันระหว่างชนทั้งสองกลุ่มดังกล่าว การแบ่ง
วรรณะจึงเริ่มปรากฏขึ้น โดยมีจุดประสงค์เพื่อจัดระบบระเบียบของคนในสังคมเสียใหม่ตาม
ฐานะและหน้าที่ของบุคคล คือ
1) พราหมณ์ (Brahmana) เป็นผู้นำประกอบพิธีบูชาเทพเจ้า
2) กษัตริย์ (Kshatriya) เป็นนักรบ นักปกครอง และเป็นเจ้าของที่ดิน
3) แพศย์ (Vaishya) เป็นชาวบ้านชาวเมืองที่ทำไร่ไถนา ค้าขาย และช่างฝีมือ
4) ศูทร (Sudra) เป็นทาสหรือกรรมกร
สังคม อินเดีย ก่ อ น ยุ ค พุ ท ธ ก า ล DOU 23