ข้อความต้นฉบับในหน้า
อุปัฏฐากพระถึง 3 ครั้ง ญาติวงศ์และข้าราชการต้องใช้เงินถึง 1 โกฏิ เพื่อไถ่พระองค์ออกมา
ปรมาจารย์ตั๊กม้อ หรือพระโพธิธรรม (Bodhidharma) ชาวอินเดียใต้ เข้าไปเผยแผ่
พุทธศาสนาในสมัยพระเจ้าเหลียงบูเต้ ท่านเดินทางไปที่จีนภาคเหนือในปี พ.ศ. 1069 สร้าง
วัดเสี่ยวลิ้มยี่ หรือวัดเส้าหลินขึ้นบนภูเขาซงซัว มณฑลเหอหนัน จากนั้นก่อตั้งนิกายฉานขึ้น
ฉาน หมายถึง ฌาน ในภาษาบาลี หรือ ธยาน ในภาษาสันสกฤต หรือ เซน ในภาษาญี่ปุ่น
ตำนานเล่าว่า ขณะอยู่วัดเส้าหลิน ปรมาจารย์ตั๊กม้อนั่งสมาธิผินหน้าเข้าฝาอยู่ 9 ปีไม่ลุกขึ้น
นิกายเซนเน้นการปฏิบัติสมาธิและวิปัสสนาเพื่อให้เข้าถึงฌานที่เรียกว่า ซาเซน โดย
ไม่อาศัยตัวหนังสือหรือปริยัติธรรมใด ๆ จึงมีคำขวัญประจำนิกายว่า “ปุกลิบบิ้นยี่ ติกจี้ทั้งซิม
เกียงแต่ เซ่งฮุด” แปลว่า ไม่ต้องอาศัยหนังสือแต่ชี้ตรงไปยังจิตของมนุษย์ ให้เห็นแจ้งในภาวะ
ที่แท้จริงแล้วบรรลุเป็นพุทธะ ต่อมานิกายเซนได้ขยายไปยังประเทศเกาหลี ญี่ปุ่น เวียดนาม
และปัจจุบันเป็นที่นิยมมากในตะวันตก
ปรมาจารย์ตั๊กม้อยังเป็นผู้ให้กำเนิดวิชากังฟูวัดเส้าหลินซึ่งโด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย
ในตอนนั้นท่านเห็นว่า พระมีสุขภาพอ่อนแอ ไม่สามารถเจริญกรรมฐานได้อย่างเคร่งครัด
จึงหาวิธีให้พระภิกษุฝึกฝนร่างกายควบคู่กับปฏิบัติธรรม เริ่มแรกกังฟูจึงไม่ได้ฝึกเพื่อการต่อสู้
แต่เป็นหนทางเข้าสู่แก่นธรรมะ ภายหลังถูกดัดแปลงเป็นวรยุทธสำหรับการสู้รบ ในสมัย
ราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161 - 1450) การฝึกวิทยายุทธของวัดเส้าหลินได้รับการสนับสนุนจาก
ราชสำนักอย่างเต็มที่ถึงขนาดมีกองทัพพระ ยามศึกสงครามจะให้พระภิกษุลาสิกขาไปป้องกัน
ประเทศ พอเสร็จศึกจึงกลับมาบวชใหม่
มหันตภัยคุกคามพระพุทธศาสนา ในช่วง พ.ศ.1117-1120 มหันตภัยใหญ่หลวง
ได้เกิดขึ้นกับพระพุทธศาสนาในแคว้นจิ๋ว คือ มีการยกเลิกพระพุทธศาสนาและลัทธิเต๋า บังคับ
ให้พระสงฆ์ลาสิกขา 2,000,000 รูป ยึดวัดและหลอมพระพุทธรูปเพื่อเอาทองคำและทองแดง
ไปทำทองแท่งและเหรียญกษาปณ์ ในยุคพระเจ้าเฮียนตง ห้ามมีการสร้างวัด หล่อพระพุทธรูป
และพิมพ์พระสูตรโดยไม่ได้รับอนุญาต ผู้ที่จะบวชต้องสวดพระสูตรได้ 1,000 หน้า หรือเสีย
ค่าบวชให้หลวง 100,000 อีแปะ
ต่อมาปี พ.ศ. 1388 รัชสมัยจักรพรรดิจง ทรงเลื่อมใสลัทธิเต๋า ทรงแต่งตั้งนักบวชเต๋า
เป็นเสนาบดี มีการโต้วาทีกันระหว่างพระภิกษุกับนักบวชเต๋า ฝ่ายพระภิกษุได้รับชัยชนะ
1 เสถียร โพธินันทะ, ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา ฉบับมุขปาฐะ เล่ม 1, 2539 หน้า 202
124 DOU ประวัติ ศ า ส ต ร์ พระ พุ ท ธ ศ า ส น า