ข้อความต้นฉบับในหน้า
แต่ภายหลังจากที่พระพุทธองค์ทรงเสด็จดับขันธปรินิพพานแล้ว ความสมัครสมาน
สามัคคีในหมู่สงฆ์ก็มีอันเปลี่ยนแปลงไป ทั้งนี้เป็นเพราะภิกษุสงฆ์มีระดับสภาวธรรมที่ต่างกัน
มีพื้นฐานครอบครัว สังคม ภาษา การศึกษาที่แตกต่างกัน รวมถึงอาศัยอยู่ในสถานที่อันต่าง
ภูมิประเทศและต่างวัฒนธรรมกัน
ด้วยพื้นฐานที่ต่างกันดังกล่าว จึงทำให้คณะสงฆ์มีความแตกต่างกันในหลาย ๆ ด้าน
ทั้งในทางความเห็น (ทิฏฐิสามัญญตา) และข้อวัตรปฏิบัติ (สีลสามัญญตา) ความแตกต่างกันนี้
เกิดขึ้นตั้งแต่ครั้งที่เหล่าภิกษุสงฆ์ได้กระทำการสังคายนาพระธรรมวินัยครั้งแรก โดยมีพระ
และพระปุราณะไม่ยอมรับในสิกขาบท 8 ข้อที่เกี่ยวกับการขบฉัน
ดังได้กล่าวมาแล้ว แม้ว่าพระมหากัสสปะจะทักท้วงอย่างไร แต่พระปุราณะและเหล่าบริวารก็
ไม่ยอมรับ ยังคงประพฤติตามที่ตนได้รู้ได้รับฟังมาจากพระพุทธองค์เท่านั้น
มหากัสสปะเป็นประธาน
เมื่อกาลล่วงไป 100 ปีหลังพุทธปรินิพพาน การขัดแย้งก็เริ่มปรากฏให้เห็นชัดเจน
เป็นรูปธรรม จากกรณีภิกษุแตกกันออกเป็น 2 ฝ่าย อันเนื่องจากความเห็นขัดแย้งกันในเรื่อง
วัตถุ 10 ประการ โดยพวกหนึ่งเห็นว่า วัตถุ 10 ประการนี้ชอบด้วยพระธรรมวินัย ส่วนอีก
พวกหนึ่งเห็นว่าไม่ชอบด้วยพระธรรมวินัย จึงเกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรง อันเป็นมูลเหตุให้
เกิดการสังคายนาครั้งที่ 2 ขณะที่อีกฝ่ายที่ไม่ยอมรับการทำสังคายนา ได้แยกตัวเป็นอิสระไป
ทำสังคายนาในที่แห่งหนึ่งต่างหาก เหตุการณ์นี้ส่งผลต่อพระพุทธศาสนาโดยตรง เพราะทำให้
พระพุทธศาสนาแตกแยกออกเป็น 2 นิกายอย่างเป็นทางการเป็นครั้งแรก คือ เถรวาท (หรือ
สถวีรวาทิน) และอาจาริยวาท (หรือมหาสังฆิกะ)
การแตกแยกในครั้งนี้ได้ตอกย้ำให้เห็นถึงเค้าโครงของการแบ่งพระพุทธศาสนาเป็น
เถรวาทและมหายานชัดเจนขึ้น โดยหลังจากนั้นไม่นานในช่วงสังคายนาครั้งที่ 3 พระพุทธศาสนา
ก็แบ่งออกเป็น 18 นิกายอย่างชัดเจน และต่อมาได้พัฒนามาเป็นนิกาย 3 สายหลัก คือ สาย
หินยาน สายมหายาน และสายวัชรยาน
2. สาเหตุภายนอกพระพุทธศาสนา
ในสมัยพุทธกาลนั้นการประกาศศาสนาของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้รับการต่อต้านจาก
พวกคณาจารย์เจ้าลัทธิต่าง ๆ เช่น ลัทธิครูทั้ง 6 เป็นต้น มีหลายครั้งที่เกิดการประวาทะของ
พระพุทธองค์กับเจ้าลัทธิหรือเหล่าสานุศิษย์ลัทธิต่าง ๆ โดยเฉพาะจากศาสนาพราหมณ์ เพราะ
เกษมสุข ภมรสถิตย์, พุทธศาสนา พุทธปรัชญา เถรวาท มหายานและ หินยาน, 2541 หน้า 6
80 DOU ประวัติศาสตร์ พระพุทธ ศาสนา