พุทธศาสนาในสมัยรัตนโกสินทร์ GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 161
หน้าที่ 161 / 249

สรุปเนื้อหา

พระไตรปิฎกและการส่งเสริมพระพุทธศาสนาโดยพระมหากษัตริย์ในสมัยรัตนโกสินทร์แสดงให้เห็นถึงความเจริญรุ่งเรืองของพระพุทธศาสนาในกรุงรัตนโกสินทร์ โดยรัชกาลที่ 1 ทรงเป็นศาสนูปถัมภ์ที่ดี มีการสังคายนาพระไตรปิฎก ซึ่งได้มีพระภิกษุและราชบัณฑิตเข้าร่วมจำนวนมาก รัชกาลที่ 2 ได้ปรับปรุงการศึกษาภาษาบาลีและส่งเสริมการสวดพระปริตรเพื่อขจัดโรคภัย โดยพระนักปฏิบัติต่างๆ ได้ยกย่องพระองค์เป็นอย่างยิ่ง

หัวข้อประเด็น

-พระมหากษัตริย์และพระพุทธศาสนา
-การสังคายนาพระไตรปิฎก
-หลักสูตรภาษาบาลี
-ผลกระทบของโรคระบาด
-การบำเพ็ญกุศล

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระไตรปิฎก และทรงขอร้องให้ภิกษุตั้งมั่นอยู่ในพระธรรมวินัย หากขัดข้องสิ่งใดพระองค์จะ จัดการอนุเคราะห์ ทรงมีพระราชดำรัสว่า “ถ้าพระผู้เป็นเจ้าทั้งปวงมีศีลคุณบริบูรณ์ในพระศาสนา แล้ว แม้จะปรารถนามังสะรุธิระของโยม โยมก็อาจจะเชือดเนื้อแลโลหิตออกมาบำเพ็ญทานได้” เพราะสมัยนั้นมีภิกษุประพฤตินอกรีตตั้งตนเป็นแม่ทัพ พระเจ้าตากสินจึงจับสึกไปจำนวนมาก สมัยรัตนโกสินทร์ หลังจากสิ้นยุคธนบุรีแล้วพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก มหาราชได้เสด็จขึ้นครองราชสมบัติในวันที่ 6 เมษายน พ.ศ.2325 ทรงย้ายเมืองหลวงมาที่ กรุงเทพมหานคร หรือกรุงรัตนโกสินทร์ พระพุทธศาสนาในกรุงรัตนโกสินทร์นั้นมีความเจริญ รุ่งเรืองไม่แพ้ยุคใดที่แล้วมา ทั้งนี้เพราะพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ทรงเป็นหลักชัยในการ ส่งเสริมบำรุงพระพุทธศาสนาเป็นอย่างดี รัชกาลที่ 1 (พ.ศ.2325-2352) พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงมีศรัทธาในพระพุทธศาสนา เสด็จออกทรงบาตรเวลาเช้า ตอนเพลถวายภัตตาหาร เวลา เย็นเสด็จออกท้องพระโรงเพื่อสดับพระธรรมเทศนาเป็นประจำ ทรงโปรดให้ทำสังคายนาพระ ไตรปิฎกในปลายปี พ.ศ.2331 ณ พระอุโบสถวัดพระศรีสรรเพชญ์ (วัดมหาธาตุในปัจจุบัน) โดยมีพระภิกษุ 218 รูป ราชบัณฑิต 32 คน พระองค์เสด็จไปที่ประชุมสังคายนาวันละ 2 ครั้ง เช้าและเย็น เพื่อถวายภัตตาหาร และน้ำปานะ สังคายนาอยู่ 5 เดือนจึงเสร็จ แล้วโปรดให้คัดลอกสร้างเป็นฉบับหลวงขึ้น เรียกว่า ฉบับทองใหญ่ นอกจากนี้ทรงออกกฎหมายเกี่ยวกับคณะสงฆ์เป็นครั้งแรกและออกต่อ ๆ กันมา รวม 10 ฉบับ ฉบับที่ 1 ออกในปี พ.ศ.2325 ฉบับที่ 10 ออกในปี พ.ศ.2344 และทรงโปรด ให้สร้างวัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้ว ในปี พ.ศ.2325 เพื่อเป็นที่ประดิษฐาน พระแก้วมรกต รัชกาลที่ 2 (พ.ศ.2352-2367) ในสมัยของพระบาทสมเด็จพระเลิศหล้านภาลัย มีการปรับหลักสูตรการศึกษาภาษาบาลีใหม่จาก “บาเรียนตรี บาเรียนโท บาเรียนเอก” เป็น แบบ 9 ประโยค ดังที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ในการสอบวัดผลนั้น ใช้วิธีสอบปากเปล่าคือให้แปล พระบาลีต่อหน้ากรรมการ 3-4 รูป และมีครูเข้าฟังเป็นพยาน 20-30 รูป ถ้านักเรียนแปลเก่ง อาจจะสอบผ่าน 9 ประโยคภายในวันเดียวก็ได้ ในปี พ.ศ. 2363 มีอหิวาตกโรคระบาดผู้คนล้มตายมาก พระองค์จึงบำเพ็ญกุศล หลายอย่างเพื่อขจัดปัดเป่าภัยพิบัติ โปรดให้แปลพระปริตรเป็นภาษาไทย ให้เจ้านายและ ข้าราชการฝ่ายในฝึกหัดสวดพระปริตรทุกวัน โดยพระองค์เสด็จขึ้นทรงฟังสวดถวาย ณ พระที่นั่ง 152 DOU ประวัติ ศ า ส ต ร์ พระ พุ ท ธ ศ า ส น า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More