ประวัติการแพร่กระจายพระพุทธศาสนาในทิเบต GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 151
หน้าที่ 151 / 249

สรุปเนื้อหา

บทความนี้อธิบายถึงการนำพระพุทธศาสนาเข้าสู่วัฒนธรรมทิเบตตั้งแต่สมัยพระเจ้าอโศกฯ รวมถึงความสำคัญของพระเจ้าซองเซน กัมโป และอิทธิพลของลัทธิบอนซึ่งมีความขัดแย้งกับพระพุทธศาสนา การสร้างศาสนสถานสำคัญและการประดิษฐ์อักษรทิเบตจากอักษรสันสฤต รวมถึงการระงับอิทธิพลของลัทธิบอนโดยพระคุรุปัทมสัมภวะในภายหลัง

หัวข้อประเด็น

-การนำพระพุทธศาสนาเข้าสู่วัฒนธรรมทิเบต
-พระเจ้าซองเซน กัมโป
-อิทธิพลของลัทธิบอน
-การสร้างพุทธสถานและอักษรทิเบต
-การปราบลัทธิบอนโดยพระคุรุปัทมสัมภวะ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ดังนั้นพระพุทธศาสนาจึงเข้าสู่ทิเบตตั้งแต่สมัยพุทธกาลแล้ว ต่อมาสมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ทรงส่งสมณทูต 9 สายไปประกาศพระศาสนา โดยสายของพระมัชฌิมเถระและคณะได้เดินทาง มาประกาศพระพุทธศาสนา ณ บริเวณเทือกเขาหิมาลัยนี้ ต่อมาปี พ.ศ.976 กษัตริย์ลาโธ โธรี เย็นเซ (พ.ศ.900-1100) ได้รับเครื่อง บรรณาการจากตัวแทนอินเดีย อันมีคัมภีร์พระพุทธศาสนาและพระพุทธรูปด้วย พระองค์จึง เป็นกษัตริย์ทิเบตพระองค์แรกที่นับถือพระพุทธศาสนา ช่วงนี้พระพุทธศาสนายังไม่แพร่หลาย เพราะลัทธิบอน” อันเป็นความเชื่อดั้งเดิมของชาวทิเบตยังมีอิทธิพลอยู่มาก เมื่อพระเจ้าซองเซน กัมโป ขึ้นครองราชย์ (พ.ศ.1160-1241) ทรงทำสงครามกับ จีนและตีเมืองเสฉวนได้ พระเจ้าถังไท่จงฮ่องเต้จึงปรารถนาจะผูกมิตรกับทิเบตด้วยการยกเจ้าหญิง ในราชสกุลองค์หนึ่งพระนามว่า หุ้นเช้งกง ให้เป็นมเหสีของพระเจ้าซองเซน กัมโป ต่อมาเมื่อ ทิเบตรุกรานเนปาล กษัตริย์เนปาลจึงขอผูกไมตรีด้วยการยกพระธิดาชื่อ กฤกุฎีเทวี ให้เป็น มเหสีของพระองค์เช่นกัน ราชธิดาทั้งสองได้อัญเชิญพระพุทธรูปและคัมภีร์พระพุทธศาสนาเข้าไป ในทิเบตด้วย ทั้งสองพระองค์ได้ชักจูงให้พระสวามีนับถือพระพุทธศาสนา พระเจ้าซองเซน กัมโปทรงส่งที่ปรึกษาราชสำนักคนสำคัญชื่อ ทอนมี สัมโภตะ พร้อม คณะอีก 12 คน ไปศึกษาพระพุทธศาสนา ณ มหาวิทยาลัยนาลันทา ประเทศอินเดีย ทอนมี สัมโภตะและคณะได้นำอักษรสันสฤตมาเป็นต้นแบบในการประดิษฐ์อักษรและไวยากรณ์ภาษา ทิเบตขึ้น และได้แปลคัมภีร์พระพุทธศาสนาจากภาษาสันสกฤตเป็นภาษาทิเบตด้วย หลังจาก นั้นชาวทิเบตจึงได้ศึกษาพระพุทธศาสนากันอย่างกว้างขวาง ในปี พ.ศ. 1173 พระเจ้าซองเซน กัมโปประกาศให้พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ และทรงสร้างพุทธสถานที่สำคัญ หลายแห่ง เช่น พระราชวังโปตาลา และวัดโจคัง เป็นต้น หลังจากรัชสมัยพระเจ้าซองเซน กัมโปแล้ว ลัทธิบอนกลับมามีอิทธิพลอีกครั้ง ได้ข่ม พระพุทธศาสนาโดยอ้างฤทธิ์เดชต่าง ๆ ของลัทธิตน จนกระทั่งพระเจ้าธริซอง เดทเซน ขึ้น ครองราชย์ (พ.ศ. 1333-1401) พระองค์ทรงอาราธนาพระคุรุปัทมสัมภวะ แห่งลัทธิมนตรยาน ผู้รู้เวทมนตร์มากให้มาปราบลัทธิบอน ท่านคุรุปัทมสัมภวะใช้เวลา 1 ปีกว่า จึงปราบได้หมด แล้วตั้งนิกายเนียงม่า (Nyiangma) หรือนิกายหมวกแดง และสร้างวัดสัมเยขึ้นเป็นศูนย์กลาง พระมหาสมจินต์ สมฺมาปญฺโญ, อารยธรรมพุทธศาสนาในทิเบต, 2547 หน้า 20 2 บอน แปลว่า มนตร์ท่องบ่น หมายถึง ลัทธิวิญญาณนิยม (Animism) ซึ่งเชิงมานุษยวิทยาถือว่า วิญญาณสิงสถิต อยู่ในสรรพสิ่งและมีเจตภูตอยู่ในธรรมชาติและปรากฏการณ์ 142 DOU ประวัติ ศ า ส ต ร์ พระ พุ ท ธ ศ า ส น า
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More