การพัฒนาของนิกายมหายานในพระพุทธศาสนา GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 101
หน้าที่ 101 / 249

สรุปเนื้อหา

พระพุทธศาสนามหายานมีการพัฒนาเป็นนิกายต่าง ๆ โดยเฉพาะสองสายที่มีต้นกำเนิดในอินเดีย คือ มาธยมิกะ และโยคาจาร นิกายมาธยมิกะ เน้นคำสอนเรื่องทางสายกลางระหว่างการมีและไม่มี ในขณะที่ฝ่ายเถรวาทมีความมุ่งมั่นในการรักษาพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด การปรับตัวของมหายานสะท้อนความต้องการที่เกิดขึ้นตามยุคสมัย รวมถึงความลึกซึ้งในปรัชญาที่ยังได้รับการศึกษาอย่างจริงจังในวงวิชาการตะวันตก ในทำนองนี้ ทั้งสองนิกายยังมีแนวคิดที่ส่งผลต่อการเผยแพร่และการตีความในปัจจุบัน

หัวข้อประเด็น

-ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
-การเปลี่ยนแปลงของนิกายมหายาน
-การรักษาพระธรรมวินัย
-ความสำคัญของนิกายมาธยมิกะ
-ความหมายของทางสายกลาง

ข้อความต้นฉบับในหน้า

อยมา และเนื่องจากเหตุผลก็ย่อมขึ้นอยู่กับขอบเขตแห่งแนวความคิดของบุคคลแต่ละคน ไม่จำเป็นที่บุคคลอื่น ๆ จะต้องยอมรับ ดังนั้นนิกายย่อยๆ ของมหายานจึงเกิดขึ้นเรื่อย เมื่ออยู่ที่ใด สภาพแวดล้อมเปลี่ยนไป ความคิดที่จะปรับปรุงก็มีอยู่ อย่างไรก็ตาม ถ้าบุคคลมี จิตใจสูง พุทธพจน์ก็ไม่แปดเปื้อนมลทินมากนัก แต่ถ้าบุคคลมีจิตใจต่ำ พุทธพจน์ก็พลอย มัวหมองไปด้วย ด้วยเหตุนี้ พระพุทธศาสนาฝ่ายเถรวาทจึงมีท่าทีในการรักษาพระธรรมวินัยอย่าง เคร่งครัด ซึ่งมีประโยชน์ต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในระยะยาว ในขณะที่ฝ่ายมหายาน และเมื่อกาลเวลาผ่านไป มหายานก็ต้อง สนองความต้องการที่เหมาะในขณะนั้นเท่านั้น เปลี่ยนแปลงตัวเองอยู่เรื่อยไปอย่างหลีกเลี่ยงมิได้ จึงปรากฏว่ามีนิกายของมหายานมากมาย เหลือเกินในปัจจุบัน 4.2.3 มหายานสองสายที่มีต้นกำเนิดในอินเดีย พระพุทธศาสนามหายานในอินเดีย สามารถแบ่งเป็นนิกายใหญ่ๆ ได้ 2 นิกาย คือ นิกายมาธยมิกะ และนิกายโยคาจาร ทั้งสองนิกายเป็นที่ยอมรับกันทั่วไปในวงวิชาการว่า เป็น นิกายของฝ่ายมหายานที่มีต้นกำเนิดในอินเดีย และต่างก็มีปรัชญาคำสอนอันลึกซึ้งที่ชวนให้ นักวิชาการชาวตะวันตกทั้งหลายทุ่มเทศึกษากันอย่างจริงจัง 1. นิกายมาธยมิกะ (Madhyamika) คำว่า มาธยมิกะ แปลว่า ทางสายกลาง ที่ได้ชื่ออย่างนี้เพราะมุ่งเน้นคำสอนเรื่องทาง สายกลาง (มัชฌิมาปฏิปทา) เป็นหลักสำคัญ แต่ทางสายกลางตามแนวคิดของนิกายมาธยมิกะ อาจห่างไกลจากสิ่งที่เราเข้าใจ นิกายมาธยมิกะถือทางสายกลางระหว่างความมีกับความไม่มี ความเที่ยงกับความไม่เที่ยง เป็นต้น กล่าวสั้นๆ นิกายนี้แสดงว่าโลกนี้มีจริงก็ไม่ใช่ไม่มีจริงก็ไม่ใช่ แต่เป็นสิ่งที่สืบเนื่องกันเป็นปฏิจจสมุปบาท (สิ่งทั้งหลายเกิดขึ้นและดำเนินไปตามเหตุปัจจัย) น่าสังเกตว่าทางสายกลางตามคำสอนดั้งเดิม มีความหมายไปในเชิงจริยธรรมหรือ เป็นแนวทางเพื่อการปฏิบัติ ในขณะที่ทางสายกลางของนิกายมาธยมิกะกลับมีความหมายใน เชิงอภิปรัชญา ซึ่งเป็นแนวคิดอันลึกซึ้งที่ดูจะไม่เกี่ยวกับการปฏิบัติเท่าใดนัก กล่าวกันว่า นิกายมาธยมิกะเป็นนิกายแรกสุดที่แยกตัวออกมาจากมหายานกลุ่ม ดั้งเดิมที่มีมาก่อนหน้านั้น โดยมีท่านนาคารชุน (Nagarajuna) เป็นผู้ก่อตั้งขึ้นในพุทธศตวรรษ ที่ 7 ท่านนาคารชุนได้อรรถาธิบายพุทธมติด้วยระบบวิภาษวิธี (Dialectic) หรือวิธีโต้แย้งกันทาง 92 DOU ประวัติศาสตร์ พระพุทธ ศาสนา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More