การประชุมสงฆ์เพื่อสังคายนาพระธรรม GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 84
หน้าที่ 84 / 249

สรุปเนื้อหา

ในการประชุมสงฆ์ที่จัดขึ้นเมื่อประมาณ พ.ศ.236 พระมหาเทวะได้เสนอ 5 ข้อที่ถูกค้านโดยฝ่ายธรรมวาที จนเกิดความขัดแย้ง ส่วนพระเจ้ากาฬาโศกได้มีส่วนในการตัดสินเรื่องนี้ ซึ่งสุดท้ายฝ่ายพระมหาเทวะได้รับชัยชนะและมีการประชุมสังคายนาครั้งที่ 3 เพื่อรับมือกับเดียรถีย์ปลอมที่เข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา ทำให้เกิดความรังเกียจและความสับสนในวงการสงฆ์ และภายหลังการประชุมใช้เวลานานถึง 9 เดือนจึงสำเร็จ

หัวข้อประเด็น

-มติ 5 ข้อของพระมหาเทวะ
-การประชุมสงฆ์
-การสังคายนาครั้งที่ 3
-ปัญหาเดียรถีย์ปลอม
-พระเจ้ากาฬาโศก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งเป็นวันอุโบสถ พระมหาเทวะเป็นผู้สวดปาฏิโมกข์ แต่ท่านผู้นี้เป็นฝ่าย อธรรมวาที ได้เสนอมติ 5 ข้อต่อที่ประชุมสงฆ์ ซึ่งมีใจความดังนี้ 1. พระอรหันต์อาจถูกมารยั่วยวนจนอสุจิเคลื่อนในเวลาหลับได้ 2. พระอรหันต์อาจมีอัญญาณคือความไม่รู้ในบางสิ่งได้ 3. พระอรหันต์อาจมีกังขาคือความลังเลสงสัยในบางสิ่งได้ 4. ผู้จะรู้ว่าตนได้บรรลุมรรคผลชั้นใด จำต้องอาศัยการพยากรณ์จากคนอื่น 5. บุคคลจะบรรลุพระอรหันต์ได้ด้วยการเปล่งวาจาว่า ทุกข์หนอ ๆ ฝ่ายธรรมวาทีจึงคัดค้านประกาศทั้ง 5 ข้อของพระมหาเทวะว่าเป็นมิจฉาทิฐิ มิจฉาวาจา แต่ฝ่ายธรรมวาที่มีจำนวนน้อยฝ่ายเข้าข้างพระมหาเทวะมีจำนวนมากกว่า และเมื่อหาข้อยุติไม่ได้ พระเจ้ากาฬาโศกจึงต้องเสด็จมาห้ามด้วยพระองค์เอง แต่พระองค์ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตรัส ถามพระมหาเทวะ พระมหาเทวะถวายความเห็นให้ตัดสินด้วยวิธีเสียงข้างมาก หรือเยยยสิกา- อธิกรณสมถวิธี ปรากฏว่าชัยชนะตกเป็นของฝ่ายพระมหาเทวะ พระเจ้ากาฬาโศกจึงประกาศ ให้สงฆ์ปฏิบัติตามคติของพระมหาเทวะสงฆ์ฝ่ายธรรมวาทีซึ่งมีจำนวนน้อยกว่าจึงพากันจาริกไปสู่ แว่นแคว้นอื่น 4.1.3 การสังคายนาครั้งที่ 3 ตติยสังคายนา ประธานสงฆ์ : ประมาณ พ.ศ.236 : พระโมคคัลลีบุตรติสสเถระ ผู้เข้าร่วมประชุมสังคายนา : พระอรหันตขีณาสพจำนวน 1,000 รูป องค์อุปถัมภ์ : พระเจ้าอโศกมหาราช เหตุปรารภในการทำสังคายนา : เดียรถีย์ปลอมเข้ามาบวชในพระพุทธศาสนา สถานที่ประชุมทำสังคายนา : อโศการาม เมืองปาฏลีบุตร ระยะเวลาในการประชุม : กระทำอยู่ 9 เดือนจึงสำเร็จ บันทึกเหตุการณ์สำคัญ : การทำสังคายนาครั้งที่ 3 นี้ เกิดขึ้นโดยปรารภที่มีพวกเดียรถีย์ปลอมเข้ามาบวชใน พระพุทธศาสนาเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพระพุทธศาสนารุ่งเรืองขึ้น มีลาภสักการะเกิดขึ้นมาก จึงมีเดียรถีย์ที่มุ่งแสวงหาลาภสักการะปลอมมาบวช แต่ไม่ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ทำให้สงฆ์ ที่ปฏิบัติชอบเกิดความรังเกียจแยกพระจริงพระปลอมไม่ออกพระสงฆ์จึงไม่ทำสังฆกรรมร่วม พระพุทธศาสนาในอินเดีย หลังยุค พุ ท ธ ก า ล DOU 75
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More