ข้อความต้นฉบับในหน้า
ที่มุโรมาจิ ในกรุงเกียวโต หลังจากปกครองประเทศมาได้ 200 กว่าปี ก็เกิดสงครามกลางเมือง
ขึ้นระหว่างผู้นำทหารแต่ละตระกูล ในครั้งนั้นมีนักรบผู้หนึ่งชื่อ โอดะ โนบุนากะ (Oda Nobunaga)
ฝึกให้ทหารของเขาใช้อาวุธปืนที่พ่อค้าโปรตุเกสนำมาขายในปลายพุทธศตวรรษที่
กองทัพแข็งแกร่งและสามารถปราบหัวเมืองต่าง ๆ ลงได้
21 จึงทำให้
ช่วงสงครามกลางเมืองนี้ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนาอย่างร้ายแรงมาก พระภิกษุ
ถึงกับต้องจับอาวุธขึ้นต่อสู้กับเหล่าทหาร โดยมีสำนักสงฆ์นิกายเทนไดแห่งภูเขาฮิเออิเป็น
ศูนย์กลางของกองทัพ โอดะ โนบุนากะ สั่งการให้กองทหารกว่า 30,000 นาย เข้าโอบล้อม
เทือกเขาฮิเออิแล้วตีโอบตะลุยขึ้นไปยังวัดซากาโมโตะ สั่งให้ฆ่าพระทุกรูปและชาวบ้านทุกคน
บนเทือกเขาไม่เว้นแม้แต่ผู้หญิงและเด็กทารกให้เผาวัดและบ้านเรือนทุกหลังจนวอดวาย จากนั้น
ให้ทหารบุกเผาวัดอื่นๆ อีกประมาณ 3,000 วัดที่มีทีท่าว่าจะก่อการกบฏต่อเขา
หลังจากปราบกองทัพพระสงฆ์ลงได้ราบคาบแล้ว โอดะ โนบุนากะสนับสนุนให้มิชชัน-
นารีชาวโปรตุเกสนำศาสนาคริสต์นิกายเยซูอิทมาเผยแผ่ จนได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว แม้
ตัวเขาเองก็เปลี่ยนไปนับถือคริสต์ศาสนาด้วย โนบุนากะครองอำนาจอยู่ได้กว่า 48 ปี ก็ถูกอะเคจิ
มิตสึฮิเดะ แม่ทัพคนสนิทสังหารในปี พ.ศ. 2125 เนื่องจากแค้นใจที่ถูกโนบุนากะทำให้เขาได้
รับความอับอายต่อหน้านายทหาร แต่อะเคจิ มิตสึฮิเดะก็ถูกลอบสังหารเช่นเดียวกันจากโทโยโทมิ
ฮิเดโยชิ นายทหารคนสนิทอีกคนหนึ่งของโอดะ โนบุนากะ
จากนั้น โทโยโทมิ ฮิเดโยชิ ก็ได้สืบทอดอำนาจต่อจากโนบุนากะ รวมญี่ปุ่นให้เป็น
หนึ่งเดียวได้สำเร็จในปี พ.ศ.2133 ช่วงแรกเขาสนับสนุนนักสอนศาสนาชาวตะวันตกเป็นอย่างดี
จนกระทั่งวันหนึ่งกะลาสีฝรั่งพูดในร้านเหล้าว่ารัฐบาลของเขาอาศัยพวกบาทหลวงเป็นแนวหน้า
ในการล่าอาณานิคม ที่ใดชาวพื้นเมืองนับถือคริสต์ศาสนามาก ก็ชื่อว่าเป็นเมืองขึ้นทางจิตใจ
ถ้าเกิดสงครามขึ้นแล้ว พวกเหล่านี้จะเป็นสายลับช่วยกองทัพให้เข้ามาโจมตีบ้านเมืองของตน
เมื่อฮิเดโยชิทราบเรื่องนี้ จึงออกคำสั่งกวาดล้างคริสต์ศาสนาให้สิ้นซาก
ยุคปิดประเทศ หลังจากฮิเดโยชิเสียชีวิตแล้ว โทะกุงะวะ อิเอะยะฮฺ ได้ครองอำนาจต่อ
โดยย้ายศูนย์กลางการบริหารแผ่นดินไปที่เมืองเอะโดะ (ปัจจุบันคือโตเกียว) และได้ตั้งรัฐบาล
โชกุนขึ้นในปี พ.ศ.2146 รัฐบาลโทะกุงะวะปกครองญี่ปุ่นอยู่ 260 ปี ยุคนี้ยังมีการติดต่อกับ
ตะวันตกทางด้านการค้า แต่ได้กำจัดนักบวชและคริสต์ศาสนิกชนอย่างรุนแรง เช่น ประหารชีวิต
กำหนดโทษเผาทั้งเป็นและริบทรัพย์ผู้นับถือศาสนาคริสต์ ต่อมาได้ขับไล่ชาวตะวันตกออกจาก
ประเทศ สั่งห้ามชาวต่างชาติทุกคนเข้าประเทศ ยกเว้นกลุ่มที่ได้รับอนุญาตบางกลุ่ม ตั้งแต่นั้น
พระพุทธศาสนาในเอเชีย DOU 137