ความเชื่อในศาสนาเชนและการดำรงชีวิตของศาสนิกชน GB 405 ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา หน้า 62
หน้าที่ 62 / 249

สรุปเนื้อหา

ลัทธิของนิครนถนาฏบุตรที่เรียกว่า ศาสนาเชน เป็นลัทธิที่ถือว่าการทรมานตนเองเป็นทางนำไปสู่การบรรลุธรรม โดยมีแก้ว 3 ดวง คือ ความเห็นชอบ ความรู้ชอบ และความประพฤติชอบ ศาสนานี้ยังเน้นความไม่เบียดเบียนและการรักษาศีลให้เคร่งครัด เป็นหลักในการดำรงชีวิตของศาสนิกชน มีประมาณ 6 ล้านคนในอินเดียที่ส่วนใหญ่มีฐานะดีจากการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากการทำการเกษตรขัดกับหลักศีล.

หัวข้อประเด็น

-ลัทธิศาสนาเชน
-การรักษาศีลในศาสนาเชน
-พระพุทธศาสนาและความเชื่อที่คล้ายคลึงกัน
-การดำเนินชีวิตของเชนศาสนิกชน
-นิกายของศาสนาเชน

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ลัทธิของนิครนถนาฏบุตรปัจจุบันเรียกว่า ศาสนาเชน ลัทธินี้จัดอยู่ในประเภท “อัตตกิ ลมถานุโยค” คือ เป็นลัทธิที่ถือว่าการทรมานตนเองเป็นการเผากิเลส เป็นทางนำไปสู่การ บรรลุธรรมที่เรียกว่าโมกษะผู้ที่ฝึกฝนดีแล้ว ย่อมไม่หวั่นไหวต่อทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดทางกายวาจา ใจ ศาสนาเชนสอนว่า แก้ว 3 ดวง คือ มีความเห็นชอบ มีความรู้ชอบ มีความประพฤติชอบ จะ นำไปสู่โมกษะได้ พระเจ้าเป็นเรื่องเหลวไหล พระเจ้าไม่สามารถบันดาลทุกข์สุขให้ใครได้ ทุกข์สุข เป็นผลมาจากกรรม การอ้อนวอนเป็นสิ่งไร้ประโยชน์ไม่มีสาระ นักบวชเชนต้องรักษาศีล 5 อย่างเคร่งครัด คือ เว้นจากการฆ่าสิ่งที่มีชีวิตรวมทั้งพืชด้วย เว้นจากการพูดเท็จ เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ เว้นจากการประพฤติผิดในกาม และไม่ยินดีในกามวัตถุ ส่วนศาสนิกชนเชนต้องรักษาศีล 12 อย่างเคร่งครัดคือ เว้นจากการ ทำลายสิ่งที่มีชีวิต เว้นจากการประพฤติผิดในกาม เว้นจากการถือเอาสิ่งของที่เจ้าของไม่ได้ให้ มีความพอใจในสิ่งที่ตนมี เว้นจากอารมณ์ที่ก่อให้เกิดความชั่ว เช่น การเที่ยวเตร่ รู้จัก ประมาณในการใช้สอยเครื่องอุปโภคบริโภค เว้นจากทางที่ก่อให้เกิดอาชญาให้ร้าย ไม่ออกพ้น เขตไม่ว่าทิศใดทิศหนึ่งยามบำเพ็ญพรต บำเพ็ญพรตทุกเทศกาล อยู่จำอุโบสถศีล ให้ทานแก่ พระ และต้อนรับแขกผู้มาเยือน เชนนับเป็นศาสนาที่ถือหลักการไม่เบียดเบียนหรืออหิงสาอย่างเอกอุ เป็นศาสนาที่มี แนวคิดใกล้เคียงกันกับพระพุทธศาสนา แม้แต่การสร้างพระพุทธรูป ถ้าดูอย่างผิวเผินก็ไม่เห็ ความแตกต่างกันมากนัก ยกเว้นจะเปลือยกายและมีดอกจันทน์ที่หน้าอกเท่านั้น ปัจจุบันมี เชนศาสนิกชนประมาณ 6 ล้านคนทั่วอินเดีย โดยมากจะมีฐานะดี เพราะเป็นพ่อค้าเสียส่วนใหญ่ เนื่องจากทำการเกษตรไม่ได้จะเป็นการผิดศีล เพราะเช่นถือว่าพืชก็มีชีวิต การเกี่ยวข้าว ตัดหญ้าเป็นบาปทั้งสิ้น ต่อมาหลังพุทธปรินิพพาน 240 ปี ศาสนาเชนก็แตกออกเป็น 2 นิกาย คือ นิกายทิฆัมพร ซึ่งเป็นนิกายดั้งเดิมที่เคร่งครัดไม่นุ่งห่มผ้า และนิกายเสวตัมพร จะนุ่งขาวห่มขาว ไว้ผมยาว แต่งตัวสะอาด และคบหากับผู้คนมากกว่านิกายเดิมที่เน้นการปลีกตัวอยู่ต่างหาก 3.3 พุทธประวัติ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นพระราชโอรสแห่งกรุงกบิลพัสดุ์ พระบิดาพระนามว่า พระเจ้าสุทโธทนะ พระมารดาพระนามว่า พระนางสิริมหามายา ซึ่งเป็นเจ้าหญิงแห่งโกลิยวงศ์ 1ทีฆนิกาย สีลขันธวรรค เล่ม 53 หน้า 180-181 2-4 พระมหาดาวสยาม วชิรปญฺโญ. (2550), ประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาในอินเดีย. (ออนไลน์) สังคม อินเดีย ส มั ย พุ ท ธ ก า ล DOU 53
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More