ข้อความต้นฉบับในหน้า
ธรรมะเพื่อประชาช
ทำความดี คือ หน้าที่หลักของมนุษย์
๑๑๑
สรรพสัตว์และสรรพสิ่ง ล้วนมีการเปลี่ยนแปลงอยู่
ตลอดเวลา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ และเสื่อมสลายไป ไม่ว่าจะเป็นคน
สัตว์ หรือสิ่งของ ต่างตกอยู่ในสภาพนี้ทั้งนั้น คือ มีความไม่เที่ยง
แปรปรวนอยู่ตลอดเวลาเปลี่ยนแปลงไปสู่ความเสื่อมทุกอนุวินาที
มนุษย์ทุกคนเกิดมาแล้วก็ต้องตาย แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ผู้เป็นเลิศกว่าใครในภพสาม พระพุทธองค์ยังต้องทอดทิ้ง
พระวรกายไว้ในโลก แล้วดับขันธปรินิพพานไป ดังนั้นเราต้อง
หมั่นนึกถึงความตายเสมอ จะได้ไม่ประมาทในการดำเนินชีวิต
และเร่งขวนขวายสร้างความดีในทุกรูปแบบ สิ่งใดที่ไม่เป็นสาระ
จะได้ปลดปล่อยวาง ให้จิตใจหลุดพ้นจากความยึดมั่นถือมั่นใน
คน สัตว์ สิ่งของที่ไม่เที่ยง เป็นทุกข์ และเป็นอนัตตา มุ่งแสวงหา
สิ่งที่เป็นนิจจัง เป็นสุขัง เป็นอัตตา คือ พระรัตนตรัยภายในตัว
ของเรานั่นเอง ให้พิจารณาปล่อยวางอย่างหนึ่ง เพื่อมุ่งเข้าหา
อีกอย่างหนึ่ง ที่เป็นสาระแก่นสารที่แท้จริงของชีวิต
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อัปปมาทสูตร ความว่า
“ดูกรภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงละกายทุจริต จง
เจริญกายสุจริต และอย่าประมาทในการละกายทุจริต และ
การเจริญกายสุจริตนั้น จงละวจีทุจริต จงเจริญวจีสุจริต
และอย่าประมาทในการละวจีทุจริต และการเจริญวจีสุจริตนั้น