ข้อความต้นฉบับในหน้า
ม ห า พ ร ห ม - ม ห า บุรุษ
๓๗๘
และสัตว์ที่ไม่มีราคะ รู้จักจักรวาลนี้และจักรวาลอื่น และ
รู้จักความมาและความไปของสัตว์ทั้งหลาย”
แม้พวกพรหมจะเป็นผู้ที่มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพมาก
หรือจะมีอายุขัยยืนยาวมากนับเป็นมหากัปขนาดไหน แต่พรหม
ก็ยังไม่หมดกิเลส ยังต้องเวียนว่ายตายเกิดอยู่ ถ้าหากหมด
กิเลสเหมือนพระอรหันต์ทั้งหลาย ครั้นดับเบญจขันธ์แล้ว
ธรรมกายอรหัตก็ตกศูนย์ถูกดูดวูบไปเสวยสุขล้วนๆ อยู่ใน
อายตนนิพพาน และไม่ต้องกลับมาเกิดอีก ซึ่งท่านใช้คำว่า
ขีณา ชาติ วุสิต พฺรหฺมจริย์ กต์ กรณีย์ นาปร์ อิตฺถตฺตาย
ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์ก็อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ คือ การขจัด
กิเลสอาสวะให้สิ้นไป ท่านก็ทำสำเร็จแล้ว กิจอย่างอื่นนอกจาก
นี้ไม่มีอีกแล้ว ส่วนพรหมทั้งหลายนั้นยังไม่พ้นจากสังสารวัฏ
ต้องกลับมาเกิดอีก ถึงแม้จะมีอานุภาพมากมาย และมีอายุขัย
ยืนยาวสักปานใด กิจก็ยังไม่จบสิ้น พรหมจรรย์ยังไม่บริสุทธิ์
บริบูรณ์เหมือนพระอรหันต์ จึงยังต้องวนเวียนอยู่ในภพสามต่อไป
ด้วยเหตุที่พรหมเสวยสุขด้วยอานาจฌานสมาบัติ เป็น
เวลายาวนานมากเป็นมหากัป จึงทำให้ท่านผู้ไปเกิดเป็นพรหม
บางท่าน เกิดความเข้าใจผิด คิดว่าตัวเองเป็นอมตะ ไม่มีวันแก่
และวันตาย ถึงขั้นกลายเป็นสัสสตทิฏฐิ คือมีความเห็นว่า
พรหมโลกเที่ยงแท้ที่สุด เป็นจุดที่ไม่มีวันเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป